ข่าว
กลุ่มธนาคารพาณิชย์: น้ำหนักลงทุน Overweight - บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส 25/01/64
- 2021-01-25 10:28:11
- 64
กลุ่มธนาคารพาณิชย์: น้ำหนักลงทุน Overweight - บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส 25/01/64
Monday, January 25, 2021 10:22
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน Overweight
มีความพร้อมที่จะไปต่อในปี 64
กำไรปี 63 ของกลุ่มหดตัว -26.5%YoY เพราะตั้งสำรอง ECL สูง
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิและค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลงเป็นปัจจัยหนุน แต่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง และตั้งสำรอง ECL สูงเป็นปัจจัยกดดันหลักในปี 63 ที่ผ่านมา
ให้น้ำหนักลงทุน Overweight โดยให้ KBANK และ TISCO เป็น Top Picks
กำไรสุทธิปี 63 อ่อนแอลง โดยหลักมาจากการตั้งสำรอง ECL โดยหุ้นที่เราวิเคราะห์ 6 แห่งมีกำไรสุทธิใน 4Q63 เท่ากับ 25.7 พันล้านบาท (-4.7% y-o-y; +35.5% q-o-q) และมีกำไรสุทธิ 94.7 พันล้านบาท (-26.5% y-o-y) ในปี 63 การอ่อนตัวของกำไรโดยหลักมาจากการตั้งสำรอง ECL ที่สูงขึ้น (+56.2% y-o-y) โดย TMB เป็นธนาคารเดียวที่รายงานการเติบโตของกำไรสุทธิในปีก่อน เนื่องจากการทำงบการเงินรวมกับ TBANK ซึ่งเริ่มตั้งแต่ธ.ค.62
อย่างไรก็ดีกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรอง ECL ของกลุ่มแบงค์ในปี 63 เติบโตได้ (+20% y-o-y) มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง รวมถึง TMB ทำงบรวมกับ TBANK แต่ถ้าไม่รวม TMB จะเติบโต +14.4% y-o-y
ปัจจัยหลักต่อผลประกอบการในปี 63, รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (+), รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (-), ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (+) และสำรอง ECL (-) ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมาจากสินเชื่อขยายตัว และ NIM เพิ่มขึ้น (จากต้นทุนการเงินลดลงจากการได้ลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ และอัตราดอกเบี้ยต่ำลง) ซึ่งเป็นผลดีที่มากกว่าผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และการผ่อนปรนหนี้ที่กระทบการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยแบบ Effective interest rate (EIR) ทำให้ NIM เพิ่มขึ้น ด้านรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงจากรายได้ค่าธรรมเนียมต่ำลง และกำไรจากเงินลงทุนลดลง ค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่ำลงเพราะควบคุมค่าใช้จ่ายและลดการขยายธุรกิจในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี การตั้งสำรอง ECL สูงขึ้นทำให้ Coverage ratio ของกลุ่มสูงขึ้น ซึ่งการตั้งสำรองมากเพราะคาดว่าคุณภาพสินเชื่อจะอ่อนแอลงหลังสิ้นสุดมาตรการผ่อนปรนของธปท.
ให้น้ำหนักลงทุน Overweight โดยให้ KBANK และ TISCO เป็นหุ้น Top Picks ทั้งนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์มี Valuation ที่จูงใจ โดยยังมี P/BV ต่ำกว่าอดีตมาก และเชื่อว่าธ.พ.จะผ่านวิกฤตโควิดไปได้ เราชอบ KBANK (ราคาพื้นฐาน 181 บาท) ที่มีพื้นฐานแข็งแรง มีโอกาสที่กำไรสุทธิจะเติบโตได้ในปี 64 และมี P/BV ต่ำเพียง 0.7 เท่า ส่วน TISCO (ราคาพื้นฐาน 110 บาท) มีจุดเด่นที่ฐานเงินกองทุนมั่นคง, ROE สูง และให้ Dividend yield ที่จูงใจ
นักวิเคราะห์ : ธนินี สถิรเรืองชัย : thaninees@th.dbs.com
ที่มา: บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประจำวันที่ 25 ม.ค. 2564
เอกสารฉบับนี้จัดทำโดยฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด โดยอยู่บนพื้นฐานวิชาชีพการวิเคราะห์หลักทรัพย์ และอาศัยข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ผู้จัดทำไม่รับประกันความครบถ้วน และความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว ความคิดเห็นที่ผู้จัดทำแสดงในเอกสารฉบับนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ เอกสารฉบับนี้จัดทำเพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลโดยทั่วไปเท่านั้น คำแนะนำที่ ปรากฎในเอกสารนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้เฉพาะเจาะจงสำหรับการลงทุน และการลงทุนที่ต้องการแนะนำโดยเฉพาะเจาะจง ซึ่งท่านควรขอรับคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือจากที่ปรึกษาด้านการเงินต่างหาก ผู้จัดทำไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นโดยตรง หรือเป็นผลต่อเนื่องที่อาจเกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นจากการใช้เอกสารนี้ หรือจากการติดต่อสื่อสารภายหลังเกี่ยวกับเอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการเสนอขาย และ/หรือชักจูงให้ซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ใดๆ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กรรมการ เจ้าหน้าที่ และพนักงาน ของบริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด อาจดำรงตำแหน่งหรือมีส่วนได้เสีย และอาจเข้าทำรายการเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงอาจดำเนินการในลักษณะเป็นตัวแทนนายหน้าที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาการลงทุน ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และ/หรือบริการทางการเงินหรือการลงทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว ทั้งนี้การนำข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนไปทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือนำออกเผยแพร่แก่สาธารณชนจะต้องได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางบริษัทก่อน
- ผู้โพสต์ superya
- 2021-01-25 10:28:11
- 64
ความคิดเห็น