คอลัมนิสต์

Smart Invest
- 2021-02-10 11:50:55
- 3623
ตระกูล “พีระเดชาพันธ์” กอด 10 หุ้น มูลค่าเกือบหมื่นล.
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดัชนียังคงรักษาฐานยืนเหนือระดับ 1,500 จุดไว้ได้ ซึ่งหากพิจารณาตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพบว่าดัชนียังคงให้ผลตอบแทนเป็นบวกในระดับ 4.63% ขณะที่ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมอาหาร (FOOD) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 8.90% ซึ่งสามารถปรับตัวสูงกว่าภาพรวมตลาด เนื่องจากมีหุ้นหลายๆตัวในกลุ่มปรับตัวสูงขึ้น
โดยหุ้นบริษัท บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.54% จากราคา 10.40 บาท เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11.60% ราคาเคยปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 12.20 บาทต่อหุ้น
จากกรณีที่มีกระแสข่าวลือออกมาว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท เถ้าแก่น้อย พูดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จํากัด (มหาชน) หรือTKN ได้ปิดดีลขายหุ้นให้แก่บริษัทแห่งหนึ่ง และจะดำเนินการเพิกถอนหุ้นของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น
บริษัทฯได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จากกลยุทธ์การดำเนินงานประจำปีบริษัทมีแผนการในการขยายธุรกิจเพื่อให้ทันกับคู่แข่งในตลาด ซึ่งหนึ่งในแนวทางนั้นคือการหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสม แต่ในปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนแต่ประการใด ดังนั้นบริษัทขอเรียนชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 50% ในบริษัท และไม่มีนโยบายเพิกถอนหลักทรัพย์ฯแต่อย่างใด
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของTKN เป็นของตระกูล" พีระเดชาพันธ์"ซึ่งถือรวมกันทั้งในตัวบุคคลและบริษัทโฮลดิ้ง มีสัดส่วนอยู่ที่ 58% (ณ.ปี 2563) ประกอบด้วย
รายชื่อ | จำนวน (หุ้น) | % การถือครอง |
พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง | 360,000,000 | 26.09 |
อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ | 322,896,200 | 23.40 |
อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ | 65,255,000 | 4.73 |
ณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ | 63,655,000 | 4.61 |
จากข้อมูลดังกล่าวหากนำจำนวนหุ้นการถือครองมาคำนวณ กับราคาหุ้นปัจจุบันที่ระดับ 11.60 บาท เท่ากับว่า ตระกูล พีระเดชาพันธ์ มีมูลค่าการถือครองรวมกันอยู่ที่ 9,416 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเชิงลึกจะพบว่า กลุ่มตระกูลดังกล่าวยังมีการลงทุนในหุ้นตัวอื่นๆอีก โดยมีจำนวนหุ้นที่ถือครอง 10 บริษัท(นับรวมTKN) โดยมีมูลค่าการถือครองรวมกว่า 9,653 ล้านบาท ซึ่งแต่ละคนจะถือหุ้นที่แตกต่างกัน และส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดเล็ก ดังนี้
"อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์" ถือหุ้น 4 บริษัท ประกอบด้วย
หุ้น | สัดส่วน (หุ้น) | มูลค่า (ลบ.) |
AS | 4,654,400 | 34 |
PM | 14,003,900 | 122 |
TKN | 322,896,200 | 3,745 |
TVD | 11,279,200 | 15 |
รวม 3,918
ณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ ถือหุ้น 7 หุ้น
หุ้น | สัดส่วน (หุ้น) | มูลค่า (ลบ.) |
ACAP | 1,850,000 | 2 |
ALL | 2,850,000 | 9 |
AS | 5,100,000 | 37 |
COMAN | 750,000 | 2 |
META | 7,300,000 | 2 |
TKN | 63,655,000 | 738 |
VCOM | 1,606,400 | 8 |
รวม 798
อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์
หุ้น | สัดส่วน (หุ้น) | มูลค่า (ลบ.) |
TKN | 65,255,000 | 756 |
อย่างไรก็ตาม บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุว่า ฝ่ายวิจัย ยังคงมีมุมมองที่ดีต่อเนื่องกับหุ้นTKN โดยสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มพีระเดชาพันธ์ (ผู้ถือหุ้นใหญ่) อยู่ที่ 58.83% (ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2563) โดยคาดว่าการหาพันธมิตรเพื่อขยายตลาดในต่างประเทศตามที่ผู้บริหารกล่าว และมองว่าอาจจะอยู่ในรูปแบบเดียวกับที่ TKN ทำกับ Pan Orion Corp ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ช่วยขยายตลาดจีน (ตลาดหลักของ TKN) และประเทศอื่นๆที่ Orion มี Network อีกทั้ง Orion ยังถือหุ้น TKN ที่ 3.5%
สำหรับตลาดที่คาดว่า TKN จะเร่งหาพันธมิตร คือ ตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีการเติบโตสูงโดยคาดว่าในปี2563-2570 seaweed snack market in USA มี CAGR ที่ 11% สำหรับปี2563 คาด TKN มีสัดส่วนรายได้จาก USA อยู่ที่ 4%
- ผู้โพสต์ kaweephol
- 2021-02-10 11:50:55
- 3623
ความคิดเห็น