Wealth Sharing
ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ มีแนวรับ 1,530-1,515 จุด แนวต้าน 1,560-1,575 จุด
12 มิถุนายน 2566
![ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2023/120623/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89.jpg)
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน แม้จะย่อตัวลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบในช่วงแรกหลังตอบรับปัจจัยบวกอย่างประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ ไปพอสมควรแล้ว ก่อนจะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาตามแรงซื้อคืนหุ้นบิ๊กแคปหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ที่มีปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย รวมถึงคาดการณ์เกี่ยวกับการคงดอกเบี้ยของเฟดและแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยย่อตัวลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ระหว่างรอติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ และผลการประชุมเฟดวันที่ 13-14 มิ.ย.
ในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,555.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.56% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 50,183.70 ล้านบาท ลดลง 5.61% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.98% มาปิดที่ระดับ 501.30 จุด
สำหรับสัปดาห์นี้ (12-16 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,530 และ 1,515 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,560 และ 1,575 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเฟด (13-14 มิ.ย.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลการประชุม ECB และ BOJ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค. ของยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร