Wealth Sharing

STEC ควักเงิน 1,200 ลบ. เพิ่มทุน"อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น"


12 มิถุนายน 2566
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯเข้าทำธุรกรรมการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ จากธุรกรรมการลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด ตามสัดส่วนในการถือหุ้นเดิมที่ร้อยละ 20 เพิ่มจากมติคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 และครั้งที่ 3/2563เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่ได้อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นในบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนลเอวิเอชั่น จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 20 ของหุ้นทั้งหมดคิดเป็น 1,800,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียน 9,000,000,000 บาท โดยปัจจุบันบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด มีทุนจดทะเบียน 4,500,000,000 บาท แต่มีความประสงค์จะเพิ่มทุนเป็น 15,000,000,000 บาท
STEC ควักเงิน .jpg
ดังนั้นเงินลงทุนในครั้งนี้จึงเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยอนุมัติไว้แล้วจำนวน 6,000,000,000 บาทในสัดส่วนของบริษัทฯ ร้อยละ 20 เท่ากับเงินลงทุนที่ต้องขออนุมัติเพิ่มเติมอีก 1,200,000,000 บาทโดยบริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากช่องทางต่างๆ อาทิเช่น เงินทุนหมุนเวียนเงินสดจากผลประกอบการที่จะได้รับเป็นปรกติจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เงินกู้จากสถาบันการเงินและการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่บริษัทฯ ถึอครองอยู่ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯจะพิจารณาแหล่งเงินทุนที่จะใช้ตามความเหมาะสม โดยคณะกรรมการบริษัทฯมีความเห็นว่าการลงทุนมีความสมเหตุสมผล และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น เนื่องจากบริษัทฯจะได้รับประโยชน์และผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวในครั้งนี้ จากเงินปันผลและผลกำไรจากเงินลงทุนเนื่องจากบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัดดำเนินธุรกิจพัฒนาและดำเนินงานโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันอออกตามโครงการการร่วมลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EECO)ซึ่งโครงการดังกล่าวมีแนวโน้มการเจริญเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย

ทั้งนี้ ธุรกรรมข้างต้นไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน และเมื่อคำนวณขนาดรายการแล้ว ไม่เข้าข่ายที่จะต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินและการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์แต่อย่างใด