บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังแนวโน้มธุรกิจสดใส ผลจากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ฟากบิ๊กบอส "วิวรรธน์ เหมมณฑารพ" ระบุหลังไทยเปิดรับนักท่องเที่ยว หนุนดีมานด์บรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น และนมเพิ่มขึ้น พร้อมตุนออเดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์งานนิวโมเดลในมือเพียบ ลุยจับมือพันธมิตรสร้าง New S-curve ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ดันมาร์จิ้นพุ่ง สนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า 10%
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เนื่องจากภาครัฐเดินหน้านโยบายเปิดเมืองเต็มรูปแบบรวมถึงประเทศจีนเปิดประเทศได้เร็วกว่าที่คาดไว้ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวชัดเจน ส่งผลให้สินค้าหลักในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก ทั้งน้ำมันหล่อลื่น และนม กลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่นิวโมเดลเข้ามาอย่างคึกคัก หลังจากที่ต้องเลื่อนออกไปจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนในช่วงที่ผ่านมา
" ในปี 2566 นี้ บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งแบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจลอนดรี้ โดยจะเป็นการลงทุนในเรื่องของระบบออโตเมชัน เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องจักร ขณะที่ลงทุนในไลน์ผลิตในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ปัจจุบันกำลังกลับมาฟื้นตัว และเชื่อว่าในอนาคตจะยังคงทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง และรองรับการขยายตัวของกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ในอนาคต ทั้งนี้ปัจจุบัน มี Backlog จากกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ต่อเนื่องไปถึงปี 2568 แล้ว" นายวิวรรธน์ กล่าว
รวมทั้งบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้รายได้จะเติบโตระดับ 10%ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยจะเร่งแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรักษาอัตรากำไรในภาวะที่ต้นทุนการผลิต ทั้งค่าแรงและค่าพลังงาน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังคงเดินหน้าที่จะเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้าง New S-curve ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยอยู่ระหว่างเพิ่มสายการผลิตในส่วนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ คาดจะเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้ รวมทั้งยังคงเปิดโอกาสในการศึกษาและหา Synergy ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง ดังนั้น น่าจะเป็นอีกธุรกิจที่จะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวด1/2566 มีรายได้รวม 953.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.09 ล้านบาท หรือ 4.05 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 916.5 ล้านบาท
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เนื่องจากภาครัฐเดินหน้านโยบายเปิดเมืองเต็มรูปแบบรวมถึงประเทศจีนเปิดประเทศได้เร็วกว่าที่คาดไว้ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวชัดเจน ส่งผลให้สินค้าหลักในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก ทั้งน้ำมันหล่อลื่น และนม กลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่นิวโมเดลเข้ามาอย่างคึกคัก หลังจากที่ต้องเลื่อนออกไปจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนในช่วงที่ผ่านมา
" ในปี 2566 นี้ บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งแบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจลอนดรี้ โดยจะเป็นการลงทุนในเรื่องของระบบออโตเมชัน เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องจักร ขณะที่ลงทุนในไลน์ผลิตในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ปัจจุบันกำลังกลับมาฟื้นตัว และเชื่อว่าในอนาคตจะยังคงทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง และรองรับการขยายตัวของกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ในอนาคต ทั้งนี้ปัจจุบัน มี Backlog จากกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ต่อเนื่องไปถึงปี 2568 แล้ว" นายวิวรรธน์ กล่าว
รวมทั้งบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้รายได้จะเติบโตระดับ 10%ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยจะเร่งแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรักษาอัตรากำไรในภาวะที่ต้นทุนการผลิต ทั้งค่าแรงและค่าพลังงาน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังคงเดินหน้าที่จะเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้าง New S-curve ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยอยู่ระหว่างเพิ่มสายการผลิตในส่วนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ คาดจะเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้ รวมทั้งยังคงเปิดโอกาสในการศึกษาและหา Synergy ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง ดังนั้น น่าจะเป็นอีกธุรกิจที่จะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวด1/2566 มีรายได้รวม 953.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.09 ล้านบาท หรือ 4.05 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 916.5 ล้านบาท