Wealth Sharing
TAKUNI ส่งบ.ย่อย ผนึก มารีน เอ็นจีเนียริ่ง ลุยผลิต-ประกอบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขายในไทยปลายปีนี้
31 มกราคม 2566
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า บริษัท เซอซอล ทาคูนิ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ทาคูนิ กรุ๊ป ได้ลงนามในหนังสือบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกัน กับ บริษัท มารีน เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มค. ที่ผ่าน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดำเนินงานร่วมกันในการ ผลิตและประกอบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รวมทั้งสร้างฐานการผลิตในประเทศไทย ในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC และยังเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย
ภายหลังการลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ทางทาคูนิ จะเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนสำคัญของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาจากไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบในโรงงานผลิตรถมอเตอร์ไซค์ของ บริษัท มารีน เอ็นจีเนียริ่ง โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตกลางปี 2566 และสามารถนำออกมาจำหน่ายในประเทศไทยได้ปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับส่งอาหาร เพราะสามารถประหยัดกว่าค่าน้ำมันได้ถึง 10 เท่า
นายชาติชายกล่าวอีกว่า จากแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป โดยการปรับเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและต่าง ประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ อยู่ในไต้หวัน ได้วางแผนผลิต และนำออกจำหน่ายในไต้หวัน ภายใต้แบรนด์”ทาคูนิ” ช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ส่วนในประเทศไทยวางแผนออกจำหน่ายปลายปีนี้
“ทุกประเทศหันมาให้ความสนใจในพลังงานสะอาดมากขึ้นซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของโลก หลายประ เทศมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนการใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า ที่สำคัญรถไฟฟ้า มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้น้ำมันมาก ข้อได้เปรียบของรถมอไซค์ไฟฟ้าของทาคูนิ คือสามารถดึงแบต เตอรี่ออกจากตัวรถไปชาร์ตที่บ้านเองได้ ที่สำคัญใช้มอไซค์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดมากกว่าค่าน้ำ มันถึง 10 เท่า” นายชาติชายกล่าว
สำหรับ บริษัท เซอซอล ทาคูนิ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และบริษัท เซอซอล ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ จดทะเบียนในตลาดหลักหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซีย ถือหุ้นในสัดส่วน 49%
ด้านนายเจมส์ ริชาร์ด ตัวแทน บริษัท มารีน เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจร่วมลงทุนกับกลุ่มทาคูนิ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอยู่ที่ไต้หวันอยู่แล้ว รวมทั้งมีแนว ความคิดไปในทิศทางเดียวกัน การเป็นพันธมิตรร่วมกับกลุ่มทาคูนิ เพื่อการพัฒนาและขยายฐานการผลิตรถไฟฟ้า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มมารีนจะนำชิ้นส่วนจากทาคูนิมาประกอบที่โรงงานของบริษัทซึ่งอยู่ในเขตอีอีซี
สำหรับกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่ม B2B เช่น ไรเดอร์ของแอพต่างๆ รวมทั้งธุรกิจในเครือของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม แฟชั่น ทำให้มั่นใจว่ากระแสตอบรับจะดีอย่างแน่นอน ธุรกิจรถไฟฟ้ามีอัตราการขยายตัวสูงมาก เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยประหยัดอย่างมาก
ด้านนายตรีพล บุณยะมาน รองผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า สถาบันยานยนต์จะเข้ามาดูแลเรื่องมาตรฐานของรถไฟฟ้า เพื่อให้เป็นตามกฎระเบียบและมาตรฐานของรัฐบาล รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถไฟฟ้าในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ทั้งนี้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างมากในประเทศ ดูได้จากมียอดการยื่นขอจดทะเบียนในปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 100% และแนวโน้มยังเติบโตอีกมาก
ภายหลังการลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ทางทาคูนิ จะเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนสำคัญของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาจากไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบในโรงงานผลิตรถมอเตอร์ไซค์ของ บริษัท มารีน เอ็นจีเนียริ่ง โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตกลางปี 2566 และสามารถนำออกมาจำหน่ายในประเทศไทยได้ปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับส่งอาหาร เพราะสามารถประหยัดกว่าค่าน้ำมันได้ถึง 10 เท่า
นายชาติชายกล่าวอีกว่า จากแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป โดยการปรับเปลี่ยนไปสู่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและต่าง ประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ อยู่ในไต้หวัน ได้วางแผนผลิต และนำออกจำหน่ายในไต้หวัน ภายใต้แบรนด์”ทาคูนิ” ช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ส่วนในประเทศไทยวางแผนออกจำหน่ายปลายปีนี้
“ทุกประเทศหันมาให้ความสนใจในพลังงานสะอาดมากขึ้นซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของโลก หลายประ เทศมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนการใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า ที่สำคัญรถไฟฟ้า มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้น้ำมันมาก ข้อได้เปรียบของรถมอไซค์ไฟฟ้าของทาคูนิ คือสามารถดึงแบต เตอรี่ออกจากตัวรถไปชาร์ตที่บ้านเองได้ ที่สำคัญใช้มอไซค์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดมากกว่าค่าน้ำ มันถึง 10 เท่า” นายชาติชายกล่าว
สำหรับ บริษัท เซอซอล ทาคูนิ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และบริษัท เซอซอล ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ จดทะเบียนในตลาดหลักหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซีย ถือหุ้นในสัดส่วน 49%
ด้านนายเจมส์ ริชาร์ด ตัวแทน บริษัท มารีน เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจร่วมลงทุนกับกลุ่มทาคูนิ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอยู่ที่ไต้หวันอยู่แล้ว รวมทั้งมีแนว ความคิดไปในทิศทางเดียวกัน การเป็นพันธมิตรร่วมกับกลุ่มทาคูนิ เพื่อการพัฒนาและขยายฐานการผลิตรถไฟฟ้า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มมารีนจะนำชิ้นส่วนจากทาคูนิมาประกอบที่โรงงานของบริษัทซึ่งอยู่ในเขตอีอีซี
สำหรับกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่ม B2B เช่น ไรเดอร์ของแอพต่างๆ รวมทั้งธุรกิจในเครือของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม แฟชั่น ทำให้มั่นใจว่ากระแสตอบรับจะดีอย่างแน่นอน ธุรกิจรถไฟฟ้ามีอัตราการขยายตัวสูงมาก เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยประหยัดอย่างมาก
ด้านนายตรีพล บุณยะมาน รองผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า สถาบันยานยนต์จะเข้ามาดูแลเรื่องมาตรฐานของรถไฟฟ้า เพื่อให้เป็นตามกฎระเบียบและมาตรฐานของรัฐบาล รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถไฟฟ้าในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ทั้งนี้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างมากในประเทศ ดูได้จากมียอดการยื่นขอจดทะเบียนในปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 100% และแนวโน้มยังเติบโตอีกมาก