รายงานพิเศษ : “สังคมผู้สูงอายุ-ความก้าวหน้าเทคโนโลยี” กระตุ้นผลงาน WINMED โตต่อเนื่อง

การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยของไทย  หนุนอุตสาหกรรมทางการแพทย์เติบโตอย่างรวดเร็ว  รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยี  หนุนผลงาน บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) ปี 66 รายได้โตแตะ 1,000 ล้านบาท 

ธุรกิจทางการแพทย์ และเครื่องมือแพทย์ มีความจำเป็นมากขึ้นในโลกปัจจุบันที่มนุษย์ใส่ใจในสุขภาพ ทำให้ตลาดเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งรวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง  โดยช่วยในการวินิจฉัยและทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ, การเกิดมากขึ้นของภาวะเรื้อรัง, การเพิ่มขึ้นของขั้นตอนการผ่าตัดและการผ่าตัดที่ซับซ้อน 

นอกจากนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและความต้องการที่เพิ่มขึ้น  สำหรับการรักษาด้วยวิธีใหม่เพื่อแก้ปัญหาความต้องการที่แท้จริงในด้านสุขภาพเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดเครื่องมือแพทย์

ซึ่งคาดการณ์ว่า ตลาดเครื่องมือแพทย์ของไทยจะมีมูลค่ากว่า 3.38 พันล้านเหรียญ หรือกว่าแสนล้านบาท ในปี 2570  มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 8.1% ต่อปี (ปี 2562-2570) โดยในปี 2564 ประเทศไทยมีมูลค่าส่งออกเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นอันดับที่ 19 ของโลก โดยมีอานิสงค์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ตลาดเครื่องมือแพทย์ที่ยังขยายตัวได้ดี  หนุนธุรกิจ บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) ในฐานะบริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้นำเข้า และจำหน่ายเครื่อง และชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “นันทิยะ ดารกานนท์”  ตั้งเป้ารายได้ปี 66 แตะ 1,000 ล้านบาท  เติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 ที่ประมาณการไว้ที่  720 ล้านบาท  เนื่องจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ และการออกสินค้าใหม่เพื่อสนับสนุนยอดขายให้ปรับตัวดีขึ้น

ขณะที่ในปี 2566 ทาง WINMED มีแนวทางออกสินค้าใหม่ในกลุ่มผู้หญิงให้มากขึ้น  เพื่อทดแทนรายได้จากกลุ่มชุดตรวจโควิด (ATK) ที่ลดลง หลังการแพร่ระบาดของโควิดเริ่มคลี่คลาย  คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนช่วงไตรมาส 1/2566  

นอกจากนี้ปัจจัยสนับสนุนยังมาจาก ประชาชนที่มั่นใจใช้บริการทางการแพทย์มากขึ้น อาทิ การบริจาคโลหิต การผ่าตัด การตรวจสุขภาพประจำปี   ซึ่งผลักดันความต้องการใช้เครื่องมือทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิต และความปลอดภัยทางโลหิต  รวมทั้งนโยบายสนับสนุนของภาครัฐที่ส่งเสริมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก  ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลสุขอนามัยระบบเจริญพันธุ์เติบโตขึ้น 

ซึ่งบริษัทเร่งขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์ ผลิตภัณฑ์ AVA ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง (HPV & STIs Self-Collect) สำหรับผู้หญิงและชาย เพื่อเข้าถึงประชาชน และกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพในวงกว้างมากขึ้น 

รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อวางจำหน่ายสินค้าใน คลินิก ร้านขายยา ร้านโมเดิร์นเทรด และโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ
        
นอกจากนี้บริษัทเตรียมขยายบริการหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาคโลหิต รองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงจัดหาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผลักดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้