Talk of The Town

SA ไฟเขียวเพิ่มทุนแบบ General Mandate ขาย PP เสริมแกร่ง!


15 มิถุนายน 2566
ผู้ถือหุ้น บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ไฟเขียวแผนเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 119,270,145 หุ้น เพื่อออกและเสนอขายแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ด้านบิ๊กบอส “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ระบุเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน รองรับแผนขยายธุรกิจ ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 130% สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
SA ไฟเขียวเพิ่มทุนแบบ.jpg
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA)  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 มีมติอนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 118,564,569 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,775,239,607 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,656,675,038 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังไม่ได้จำหน่ายจำนวน 118,564,569 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเป็นหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรหุ้นสามัญของบริษัท ไว้เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)

และมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 119,270,145 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,656,675,038 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,775,945,183 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 119,270,145 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ1 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 119,270,145 หุ้น

พร้อมกันนี้ มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 119,270,145 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท (หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ณ วันประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2566 วันที่ 9 พฤษภาคม 2566) เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) 

“บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ใช้ในการประกอบธุรกิจ เพื่อให้มีเงินเพียงพอในการดำเนินธุรกิจและการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต และใช้ลงทุนในโครงการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก รวมทั้งการขยายธุรกิจหลักและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว”

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ 6,000 – 6,600 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 130% จากปีก่อน และสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากบริษัทฯ เตรียมโอนโครงการ Landmark @ MRTA Station ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี Backlog จากโครงการนี้ประมาณ 4,700 ล้านบาท คาดเตรียมทยอยโอนภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ประกอบกับมีโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เตรียมทยอยโอนอีก 3 โครงการ นอกจากนี้มีกลุ่ม Ready to move และกลุ่มธุรกิจบริการอื่นๆ เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม
SA