จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : TPL เบอร์ 1 “ขนส่งสินค้าขนาดใหญ่” ศักยภาพเติบโตสูงดึงดูด VI ถือหุ้นยาว


19 มิถุนายน 2566
บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) หุ้นน้องใหม่ ชูจุดแข็งเบอร์ 1  กลุ่มขนส่งสินค้าขนาดใหญ่   ตั้งเป้าระดมเงินเปลี่ยนรถขนส่งเป็น พลังงานไฟฟ้า(EV)  ลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน  ดึงดูดนักลงทุน VI  เห็นการเติบโตที่ยั่งยืน  
รายงานพิเศษ TPL.jpg
ธุรกิจขนส่งสินค้า  นับเป็นธุรกิจที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งไม่ว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด  โดยจะเห็นได้จากในช่วงการระบาดของโควิด 19  การสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด  ทั้งในรูปแบบของการสั่งอาหาร  หรือการซื้อสินค้า เครื่องใช้ต่างๆ  เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค    

แม้การระบาดของโควิด19 จะลดความรุนแรงลงและการใช้ชีวิตเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ  แต่พฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ก็ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง  จากความสะดวก สบายและความคุ้นเคยที่มีมากขึ้น  โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าชิ้นใหญ่   เช่น  ตู้เย็น  รถจักรยานยนต์  อุปกรณ์ประกอบอาชีพ  เกษตรกรรม   เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก  ทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ยังเติบโตได้ดี  จึงเป็นปัจจัยบอกของธุรกิจขนส่งสินค้า 

หากจะกล่าวถึงการส่งสินค้าในระบบ มีหลายขนาดตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ไปจึงถึงสินค้าขนาดใหญ่  ซึ่งในส่วนของการส่งสินค้าขนาดใหญ่ ก็มีไม่กี่บริษัทที่ทำธุรกิจนี้ได้ จึงถือเป็นจุดแข็งของ บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  TPL “ภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา”  ระบุว่า  บริษัทให้บริการจัดส่งสินค้าหรือสิ่งของในประเทศไทย ทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป  โดยบริการจัดส่งพัสดุทุกขนาด ทั้ง B2B, B2C และ C2C  แต่มีความโดดเด่นในด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก (Odd size/Oversize)  เพราะขนส่งสินค้าได้ตรงตามกำหนดเวลา  ราคาเหมาะสม  สินค้าคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายเมื่อถึงมือผู้รับ ทั้งยังสามารถตรวจเช็คสถานะขนส่งได้แบบ Real-time ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนาน

โดยล่าสุด  บริษัทอยู่ระหว่างการนับถอยหลัง เพื่อเข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้นอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้  เพื่อใช้ในการจัดหาที่ดินและก่อสร้างศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าประจำภูมิภาค รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าในเขต กทม.  การลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการซื้อยานพาหนะที่เป็นรถขนส่งแบบ EV  การสร้างสถานีชาร์จไฟและอุปกรณ์ต่างๆ   โดยเริ่มต้นที่การเปลี่ยนรถที่วิ่งในศูนย์กระจายที่ภาคกลางก่อนประมาณ 80 คัน ให้เป็นรถใช้พลังงานไฟฟ้า 

เพราะธุรกิจขนส่งสินค้า ต้นทุนค่าน้ำมัน นับเป็นต้นทุนหลักประมาณ 15-20% ของต้นทุนจากการบริการ  ดังนั้นการเปลี่ยนจากเป็นรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า จะทำให้ต้นทุนพลังงานของบริษัทมีราคาถูกลง และจะส่งผลให้การคิดราคาค่าขนส่งปรับลดลง  ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดและสร้างกำไรให้กับบริษัทและนักลงทุน  และในยังจะส่งผลดีในเรื่อง Carbon footprint,  เรื่อง ESG หรือ การพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน  หรือ Environment, Social, และ Governance  

ในส่วนของรายได้บริษัทเฉลี่ยจะอยู่ประมาณปีละ 500  ล้านบาท   และอนาคตจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เชื่อว่าบริษัทยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมางบไตรมาสแรกปีนี้รายได้รวมเพิ่มขึ้นเกือบ 15% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหุ้น TPLเป็นหุ้น Growth Stock  เพราะบริษัทมั่นใจมีศักยภาพในการขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  รวมทั้งยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

สำหรับการเข้าถือหุ้นของนักลงทุนประเภทเน้นคุณค่า หรือ VI  ซึ่งจะเป็นกลุ่มนักลงทุน ที่ลงทุนในกิจการหรือธุรกิจที่มีคุณภาพ เน้นปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ   โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  TPL ให้มุมมองว่า นักลงทุนเหล่านี้้มองเห็นศักยภาพในการเติบโตและความแข็งแกร่งของบริษัท และเห็นว่าธุรกิจการขนส่งยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการของตลาด ทำให้เชื่อมั่นในบริษัท และลงทุนในบริษัท  โดยบางกลุ่มเข้ามาลงทุนถือหุ้นนานกว่า  2-3 ปี  บางกลุ่มพึ่งเข้าลงทุน เพราะเชื่อมั่นในประสบการณ์การทำงานและวิธีการทำงานของบริษัทที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทและนักลงทุน  
TPL