จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : “ศก.-การบริโภค-การท่องเที่ยว” ปัจจัยหลักหนุนผลงาน WP ครึ่งปีหลัง
20 มิถุนายน 2566
เศรษฐกิจไทยปี 2566 เติบโตอย่างต่อเนื่อง SCB EIC คาดโต 3.9% ผลจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น หนุนผลงาน บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ครึ่งปีหลัง ยอดขายก๊าซปีนี้แตะ 8 แสนตัน
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คงประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 66 ไว้ที่ 3.9% ตามการบริโภคภาคเอกชนและภาคท่องเที่ยว รวมถึงภาคบริการที่ฟื้นตัวดี แม้การส่งออกไม่สดใสนัก โดยการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงอยู่ที่ 30 ล้านคน ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสแตะ 1.27 ล้านล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าใกล้ค่าเฉลี่ยในปี 62 มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมากอยู่ที่ 2.1%
การบริโภคและการท่องเที่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะการใช้พลังงาน ซึ่งรวมถึงก๊าซหุงต้ม
ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” เชื่อมั่นภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังของปี 66 มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศในทุกกลุ่มลูกค้า รวมถึงแนวโน้มราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจนตามความต้องการใช้มากขึ้น จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีทำให้ธุรกิจขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ขณะที่บริษัทมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมไปถึงการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) สามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปได้มีการเซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้วขนาดกำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ โดยบริษัทยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดภายในปี 66 อยู่ที่ 20 เมกะวัตต์
"ธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทนหรือการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยตั้งงบลงทุนไว้กว่า 1 พันล้านบาท แบ่งเป็น 300 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG การลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน 500 ล้านบาท และการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ 200 ล้านบาท" นางสาวชมกมล กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆไตรมาส และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่ตั้งไว้ เนื่องจากบริษัทมีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทำให้มั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะทำได้ตามเป้าที่ 800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตัน ซึ่งทำให้คาดว่ารายได้รวมจะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท