จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : เศรษฐกิจฟื้นหนุนธุรกิจ “รับเหมา-อสังหา” ดันผลงาน PREB โตตามเป้า 10%
22 มิถุนายน 2566
เศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง หนุนการเติบโตของธุรกิจรับเหมาและก่อสร้างให้ขยายตัวตาม รวมทั้งผลงานของ บริษัท พรีบิลท์ (PREB)ที่ผู้บริหารมั่นใจผลงานปี 66 เติบโตตามเป้าหมายที่10%
SCB EIC คาดมูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว +3%YOY แตะระดับ 817,000 ล้านบาทจากโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีการก่อสร้างต่อเนื่องจากในอดีตมีความคืบหน้า รวมถึงยังมีการประมูล และก่อสร้างโครงการใหม่ ๆ อีกทั้ง งบลงทุนในงบประมาณประจำปี 2566 เพิ่มขึ้น +6%YOYและอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2566ถึง ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2566 ยังสูงกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยท้าทายด้านความล่าช้าในการอนุมัติโครงการก่อสร้างภาครัฐใหม่ ๆ จากการจัดตั้ง ของปี 2566และอาจมีผลต่อเนื่องไปยังการเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างภาครัฐในปี 2567
ส่วนมูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนในปี 2566มีแนวโน้มขยายตัว มาอยู่ที่586,000ล้านบาท (+3%YOY)โดยเป็นการขยายตัวของมูลค่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก รวมถึงการRenovateพื้นที่ค้าปลีก และโรงแรม เพื่อรองรับการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า การลงทุนภาคเอกชนในปี 2566 จะอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว เนื่องจากยังมีแรงหนุนบางส่วนจากการลงทุนก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ทั้งโครงการ Mixed-use และการฟื้นฟูกิจการโรงแรมและค้าปลีก เพื่อรองรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว แม้การก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยอาจยังให้ภาพที่ระมัดระวังท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังมีความกังวลด้านกำลังซื้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แม้ปีนี้อาจขยายตัวไม่สูงมาก แต่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ (PREB) “วิโรจน์ เจริญตรา” ระบุแผนการดำเนินธุรกิจในปี2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต10% โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังเติบโตต่อเนื่อง และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่า จะมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2566 จะมีรายได้มาจาก 5โครงการ ประกอบด้วย โครงการพิมนารา ศรีนครินทร์บางนา โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์รังสิต โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์รังสิต และที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีอีก 2โครงการ คือ โครงการพิมนารา ศาลายาและโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่ายอดโอนรวมกันกว่า 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายภายใน 3ปี จะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น50%ของกำไรรวมจากปี 2565 มีสัดส่วนอยู่ที่20% ขณะที่กำไรมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่80%
ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ในช่วงสิ้นปี2565 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 2 ปี โดยรับรู้ปีนี้ราว 50%
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ยื่นประมูลงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน4โครงการ รวมทั้งยังมีงานที่รอประมูลใหม่อีกจำนวนมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
SCB EIC คาดมูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว +3%YOY แตะระดับ 817,000 ล้านบาทจากโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีการก่อสร้างต่อเนื่องจากในอดีตมีความคืบหน้า รวมถึงยังมีการประมูล และก่อสร้างโครงการใหม่ ๆ อีกทั้ง งบลงทุนในงบประมาณประจำปี 2566 เพิ่มขึ้น +6%YOYและอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2566ถึง ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2566 ยังสูงกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยท้าทายด้านความล่าช้าในการอนุมัติโครงการก่อสร้างภาครัฐใหม่ ๆ จากการจัดตั้ง ของปี 2566และอาจมีผลต่อเนื่องไปยังการเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างภาครัฐในปี 2567
ส่วนมูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนในปี 2566มีแนวโน้มขยายตัว มาอยู่ที่586,000ล้านบาท (+3%YOY)โดยเป็นการขยายตัวของมูลค่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก รวมถึงการRenovateพื้นที่ค้าปลีก และโรงแรม เพื่อรองรับการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า การลงทุนภาคเอกชนในปี 2566 จะอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว เนื่องจากยังมีแรงหนุนบางส่วนจากการลงทุนก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ทั้งโครงการ Mixed-use และการฟื้นฟูกิจการโรงแรมและค้าปลีก เพื่อรองรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว แม้การก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยอาจยังให้ภาพที่ระมัดระวังท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังมีความกังวลด้านกำลังซื้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แม้ปีนี้อาจขยายตัวไม่สูงมาก แต่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ (PREB) “วิโรจน์ เจริญตรา” ระบุแผนการดำเนินธุรกิจในปี2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต10% โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังเติบโตต่อเนื่อง และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่า จะมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2566 จะมีรายได้มาจาก 5โครงการ ประกอบด้วย โครงการพิมนารา ศรีนครินทร์บางนา โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์รังสิต โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์รังสิต และที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีอีก 2โครงการ คือ โครงการพิมนารา ศาลายาและโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่ายอดโอนรวมกันกว่า 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายภายใน 3ปี จะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น50%ของกำไรรวมจากปี 2565 มีสัดส่วนอยู่ที่20% ขณะที่กำไรมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่80%
ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ในช่วงสิ้นปี2565 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 2 ปี โดยรับรู้ปีนี้ราว 50%
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ยื่นประมูลงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน4โครงการ รวมทั้งยังมีงานที่รอประมูลใหม่อีกจำนวนมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง