Wealth Sharing

KBank Private Banking และ Lombard Odier แนะครึ่งปีหลังเน้นกระจายการลงทุน


22 มิถุนายน 2566
KBank Private Banking และ Lombard Odier คาดเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาว แนะกระจายการลงทุน และเพิ่มมิติการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด  

KBank Private Banking และ Lombard Odier.jpg

KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier พันธมิตรทางธุรกิจไพรเวทแบงก์ระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ จัดงานสัมมนาในหัวข้อ Beyond the Numbers: Decoding the Economic Outlook ประเมินเศรษฐกิจโลกยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายระยะสั้น ทั้งจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง แต่ยังมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดีในระยะยาว  

นายจิรวัฒน์  สุภรณ์ไพบูลย์ Executive Chairman, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)  กล่าวว่า เพื่อรับมือกับหลากหลายความท้าทายในปีนี้และรอคว้าโอกาสในการลงทุนที่กำลังจะมาถึง KBank Private Banking ในฐานะที่ปรึกษาด้านการลงทุนแนะนำ 3 กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ สำหรับนักลงทุนที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนได้จริง ได้แก่ 

(1) Stay Invested แนะนำให้นักลงทุนลงทุนตลอดเวลา การทำเช่นนี้จะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการซื้อๆ ขายๆ หรือการทำ Market Timing

(2) ยึดหลักการกระจายการลงทุน โดยใช้ความเสี่ยงของสินทรัพย์ หรือ Risk-based Allocation 

(3) Alternative Investments อย่างการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด ที่แม้ตลาดทุนจะผันผวนอย่างไร ราคาสินทรัพย์นอกตลาดจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากราคาของสินทรัพย์นอกตลาดจะขึ้นกับผลการดำเนินที่แท้จริง 

ขณะที่ Lombard Odier  ได้แนะนำ 5 กลยุทธ์การลงทุนในครึ่งหลังของปี 2566 ดังนี้ 

1.     รักษาสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่โหมดชะลอตัว ทำให้คาดการณ์ว่าบอนด์ยีลด์กำลังผ่านจุดสูงสุดแล้ว 

2.     เน้นลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง หรือ Investment Grade ที่ความเสี่ยงต่ำกว่า เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้น  

3. มุ่งเน้นลงทุนในหุ้นประเทศพัฒนาแล้วนอกเหนือจากตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อยู่ในเกณฑ์แพง และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ FED หยุดขึ้นดอกเบี้ย 

4.     กระจายลงทุนในหุ้นหลายประเทศทั่วโลก ลดการกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง 

5.   กระจายลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่น โดยเฉพาะสินทรัพย์นอกตลาด (Private Assets) ซึ่งรวมถึงหุ้นนอกตลาด ตราสารหนี้นอกตลาด และอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด โดยในช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจเช่นนี้ถือเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ในราคาที่น่าดึงดูด