รายงานพิเศษ : RCEP กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค หนุน ALPHAX ขยายธุรกิจในสปป.ลาว

ความร่วมมือของประเทศในอาเซียนและนอกอาเซียน หรือ  RCEP มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบครบทั้ง 15 ประเทศสมาชิกตั้งแต่ 2 มิ.ย. 66  หนุนเพิ่มทางเลือกการค้าและลงทุนในภูมิภาค  รวมทั้งธุรกิจในสปป.ลาว ของ บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX)  



กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า RCEP หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) เขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2565 โดยมีไทยเป็น 1 ใน 15 ประเทศที่ร่วมก่อตั้ง

โดยในปี 2565 มีผลบังคับใช้กับสมาชิกทั้งหมด 13 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย และเมียนมา และในปี 2566 มีผลบังคับใช้กับอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2566 และล่าสุดกับฟิลิปปินส์ในวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ส่งผลให้มีผลบังคับใช้กับสมาชิกรวม 15 ประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

การที่ประเทศในอาเซียนและนอกอาเซียน ได้เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจก็จะส่งผลต่อดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศทั้ง 15 ประเทศ  รวมทั้ง สปป.ลาว  ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับประเทศไทย และยังเป็นประเทศที่คนไทยเลือกเข้าไปทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สาขาเวียงจันทน์  ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจในประเทศสปป.ลาว โดยระบุว่า 3 ปัจจัยที่ทำให้ สปป.ลาวมีความน่าสนใจในสายตานักลงทุนไทย
1) จุดเชื่อมต่อพรมแดน : เห็นได้ชัดจากการที่ สปป.ลาวมีจุดเชื่อมต่อกับไทยมากถึง 15 จุด แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทั้ง 2 ประเทศมองเห็นความสำคัญของการค้าและการเดินทางระหว่างผู้คน โดยเฉพาะการข้ามแดนผ่านสะพานมิตรภาพ ที่ปัจจุบันมีถึง 4 แห่งที่เชื่อมต่อเมืองสำคัญของทั้งสองประเทศ เช่นเวียงจันทน์ - หนองคาย สะหวันนะเขต-มุกดาหาร เป็นต้น

2) สปป. ลาว เป็นประเทศผู้นำเข้าสินค้าไทยรายสำคัญ ด้วยพรมแดนที่ติดต่อกัน ทำให้ขนส่งเคลื่อนย้ายง่าย ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็เป็นนักลงทุนที่สำคัญอันดับสอง รองจากจีน

3) ค่าจ้างแรงงาน : อัตราแรงงานขั้นต่ำในสปป. ลาวอยู่ที่ 1.2 ล้านกีบต่อเดือน (3,500 บาท) ซึ่งอยู่ในอัตราต่ำ เป็นปัจจัยดึงดูดนักลงทุนที่อยากเข้าไปเปิดโรงงาน อย่างไรก็ดี อัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้าวผันผวน เช่นปี 2020 ที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยน 1 USD เท่ากับ 8,000 กีบ ปัจจุบัน 1 USD = 9,400-9,200 กีบ

แม้ สปป.ลาว มีประชากรเพียง 7 ล้านคน  แต่นักลงทุนไทยก็เข้าไปใน สปป.ลาวอย่างต่อเนื่อง โดยลงทุนการผลิตพลังงาน เช่นซื้อเขื่อน สร้างเขื่อน รวมถึงพลังงานทางเลือกที่ส่งขายให้เวียดนาม ดังนั้น เมื่อมีการลงทุน ก็ย่อมมีซัพพลายเชนตามไป เช่น บริษัทก่อสร้าง ร้านสะดวกซื้อ ทั้งเข้าไปซื้อกิจการของลาว และแบรนด์ไทยเข้าไปโดยตรง  รวมถึงอุตสาหกรรมเกษตรกรรม พวกเนื้อสัตว์ ไก่ หมู ก็มีบริษัทขนาดใหญ่ทำธุรกิจเกษตรที่ สปป.ลาว   ธุรกิจรถเช่าก็ได้รับผลดีจากที่มีบริษัทใหญ่เข้าไปทำธุรกิจ 

และหนึ่งในบริษัทที่เข้าไปทำธุรกิจในสปป.ลาว  ได้แก่ บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX)  “นายธีร ชุติวราภรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  เปิดเผยว่า ปี 2566 นี้ ธุรกิจสินเชื่อที่ประเทศสปป.ลาว บริษัทมีแผนขยายพอร์ตสินเชื่อทองคำให้เพิ่มขึ้น  เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่เติบโต  และบริษัทยังมีแผนร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในสปป.ลาว  เพื่อขยายเส้นทางธุรกิจเพิ่มเติมในสปป.ลาว อย่างธุรกิจการเงิน ทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดยบริษัทมีความเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจใหม่นี้จะได้รับผลตอบแทนที่สูง ช่วยผลักดันการเติบโตให้บริษัทอย่างก้าวกระโดด 

ซึ่งจะสนับสนุนเป้ารายได้ของบริษัทในปีนี้ให้เติบโตไม่น้อยกว่า 100% จากปีก่อนที่มีรายได้ 355.36 ล้านบาทเพราะบริษัทได้ปรับกลยุทธ์เดินหน้าลุยธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ทั้งในประเทศและต่างประเทศ