จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ต่างชาติแห่เที่ยวไทยดันยอด “The Rich Residence Hotel” พุ่ง
26 มิถุนายน 2566
การเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทั้งในรูปแบบของการท่องเที่ยวและการรักษาพยาบาล กระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศให้เติบโต โดยเฉพาะพื้นที่ย่านสุขุมวิท เห็นได้จากอัตราเข้าพักใน The Rich Residence Hotel ของบมจ. RICHY ที่สูงถึง 92%
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 27 พ.ค. 66 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 10,378,457 คน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 428,000 ล้านบาท โดยประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 1,606,373 คน จีน 1,098,604 คน รัสเซีย 734,995 คน เกาหลีใต้ 627,760 คน และอินเดีย 583,319 คน
ททท. เชื่อมั่นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปี 66 จะกลับสู่ 80% ของรายได้ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 62 โดยเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 880,000 ล้านบาท
ททท. จะเดินหน้าขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมตลาดอย่างเต็มกำลัง เพื่อผลักดันสู่เป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2.38 ล้านล้านบาท โดยสำหรับนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ เร่งเครื่องด้วย Great Resumption Episode II ประกอบด้วย 5 กิจกรรมส่งเสริมตลาดหลัก ได้แก่
1. China is back มุ่งเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในจีน พร้อมเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ควบคู่กับการส่งเสริมการเดินทางทางบก
2. 7-Digit Target เน้นกลุ่มตลาดศักยภาพในประเทศที่นักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคน
3. Color your life by Amazing Thailand จัด Consumer Fair นำ Soft Power ไทยเข้าไปอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
4. Responsible Tourism ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
5. Second Tier, second to none เจาะกลุ่มเมืองรองในตลาดระยะใกล้ สำหรับตลาดระยะไกล เน้นการเพิ่มความถี่และที่นั่งสายการบินสู่เมืองหลักและเมืองรองในประเทศไทย ร่วมทำงานกับพันธมิตร เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงเชื่อมโยงสู่เมืองรองในประเทศไทย และการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแบบ all-year round
สถานการณ์การท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยเฉพาะการเช่าที่พักอาศัย สะท้อนจากมุมมองของ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) “พิชญา ตันโสด” ที่ระบุถึงความคืบหน้า การเปิดโครงการ The Rich Residence Hotel ในโครงการThe Rich Ploenchit-Nana ภายใต้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Kokotel เข้ามาร่วมบริหาร ในเฟสแรกได้รับผลตอบรับดีเกินคาด โดยมีอัตราเข้าพักสูงถึง 92% เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ซึ่งผลจากความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯเตรียมที่จะเร่งเปิดเฟส 2 ในเร็วๆนี้
“Service Residenceในรูปแบบ Hotel ของโครงการThe Rich Ploenchit-Nana Luxury Condominium ซึ่งเฟสแรกที่ส่งมอบให้ทางKokotel บริหารนั้น ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะแค่เปิดให้บริการเดือนเดียว มียอดเข้าพักหรือoccupancyมากถึง 92% ทำให้บริษัทฯเร่งเตรียมเปิดเฟส 2 ขณะเดียวกัน บริษัทฯเริ่มมีการรับรู้รายได้แล้วในรูปแบบ recurring income ทำให้มีcash flow มากขึ้น ส่งผลให้สถาบันการเงิน มีความเข้าใจในกิจการและยินดีที่จะให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้น”
สำหรับจุดเด่นของโครงการThe Rich Ploenchit-Nanaได้แก่ โครงการตั้งอยู่ในย่านCBD ตอนต้นของนานา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเป็นจุดที่คึกคักที่สุดในย่านสุขุมวิท เป็นถนนธุรกิจการค้าปลีกสายสำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ทั้งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ระบบการคมนาคม อาคารสำนักงานเกรด A และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว จะถูกปรับให้เป็น Wellness Hotel โดยมองว่ากลุ่มนักท่องเที่ยว หรือผู้มาพักที่โรงแรมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์และอีกหนึ่งกลุ่ม เป็นผู้ที่เข้ารับการรักษาด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทฯกับโรงพยาบาลวิภาวดี ซึ่งเปิดคลินิกความงามในพื้นที่ของโครงการThe Rich Ploenchit-Nanaโดยมีการนำเสนอแพ็คเกจร่วม ซึ่งจะทำให้กลายเป็น Medical Tourism ทั้งเข้ามารักษาและลงทุน เพื่อรับผลตอบแทนจากการการันตีผลตอบแทนการลงทุน และโครงการนี้การันตีผลตอบแทนการลงทุนสูงถึง 21% ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งให้มากกว่าโครงการอื่นๆในย่านเดียวกัน
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโต 100% เนื่องจากมียอดขายรอโอนอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 27 พ.ค. 66 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 10,378,457 คน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 428,000 ล้านบาท โดยประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 1,606,373 คน จีน 1,098,604 คน รัสเซีย 734,995 คน เกาหลีใต้ 627,760 คน และอินเดีย 583,319 คน
ททท. เชื่อมั่นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปี 66 จะกลับสู่ 80% ของรายได้ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 62 โดยเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 880,000 ล้านบาท
ททท. จะเดินหน้าขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมตลาดอย่างเต็มกำลัง เพื่อผลักดันสู่เป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2.38 ล้านล้านบาท โดยสำหรับนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ เร่งเครื่องด้วย Great Resumption Episode II ประกอบด้วย 5 กิจกรรมส่งเสริมตลาดหลัก ได้แก่
1. China is back มุ่งเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในจีน พร้อมเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ควบคู่กับการส่งเสริมการเดินทางทางบก
2. 7-Digit Target เน้นกลุ่มตลาดศักยภาพในประเทศที่นักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคน
3. Color your life by Amazing Thailand จัด Consumer Fair นำ Soft Power ไทยเข้าไปอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
4. Responsible Tourism ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
5. Second Tier, second to none เจาะกลุ่มเมืองรองในตลาดระยะใกล้ สำหรับตลาดระยะไกล เน้นการเพิ่มความถี่และที่นั่งสายการบินสู่เมืองหลักและเมืองรองในประเทศไทย ร่วมทำงานกับพันธมิตร เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงเชื่อมโยงสู่เมืองรองในประเทศไทย และการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแบบ all-year round
สถานการณ์การท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยเฉพาะการเช่าที่พักอาศัย สะท้อนจากมุมมองของ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) “พิชญา ตันโสด” ที่ระบุถึงความคืบหน้า การเปิดโครงการ The Rich Residence Hotel ในโครงการThe Rich Ploenchit-Nana ภายใต้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Kokotel เข้ามาร่วมบริหาร ในเฟสแรกได้รับผลตอบรับดีเกินคาด โดยมีอัตราเข้าพักสูงถึง 92% เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ซึ่งผลจากความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯเตรียมที่จะเร่งเปิดเฟส 2 ในเร็วๆนี้
“Service Residenceในรูปแบบ Hotel ของโครงการThe Rich Ploenchit-Nana Luxury Condominium ซึ่งเฟสแรกที่ส่งมอบให้ทางKokotel บริหารนั้น ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะแค่เปิดให้บริการเดือนเดียว มียอดเข้าพักหรือoccupancyมากถึง 92% ทำให้บริษัทฯเร่งเตรียมเปิดเฟส 2 ขณะเดียวกัน บริษัทฯเริ่มมีการรับรู้รายได้แล้วในรูปแบบ recurring income ทำให้มีcash flow มากขึ้น ส่งผลให้สถาบันการเงิน มีความเข้าใจในกิจการและยินดีที่จะให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้น”
สำหรับจุดเด่นของโครงการThe Rich Ploenchit-Nanaได้แก่ โครงการตั้งอยู่ในย่านCBD ตอนต้นของนานา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเป็นจุดที่คึกคักที่สุดในย่านสุขุมวิท เป็นถนนธุรกิจการค้าปลีกสายสำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ทั้งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ระบบการคมนาคม อาคารสำนักงานเกรด A และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว จะถูกปรับให้เป็น Wellness Hotel โดยมองว่ากลุ่มนักท่องเที่ยว หรือผู้มาพักที่โรงแรมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์และอีกหนึ่งกลุ่ม เป็นผู้ที่เข้ารับการรักษาด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทฯกับโรงพยาบาลวิภาวดี ซึ่งเปิดคลินิกความงามในพื้นที่ของโครงการThe Rich Ploenchit-Nanaโดยมีการนำเสนอแพ็คเกจร่วม ซึ่งจะทำให้กลายเป็น Medical Tourism ทั้งเข้ามารักษาและลงทุน เพื่อรับผลตอบแทนจากการการันตีผลตอบแทนการลงทุน และโครงการนี้การันตีผลตอบแทนการลงทุนสูงถึง 21% ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งให้มากกว่าโครงการอื่นๆในย่านเดียวกัน
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโต 100% เนื่องจากมียอดขายรอโอนอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท