7 จุดเด่นของ บมจ. ไทยพาร์เซิล (TPL) ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุในประเทศไทยทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป รวมถึงให้บริการเก็บเงินค่าพัสดุปลายทาง
1. อยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต
TPL ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15-20% ซึ่งเป็นการเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 3-5% อีกทั้งการเติบโต e-Commerce ทั่วโลกรวมทั้งไทยจะยิ่งเป็นตัวเร่งให้กิจกรรมการขนส่งต่างๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
2. เป็นผู้นำและแตกต่างจากคู่แข่ง
TPL ให้บริการโลจิสติกส์ด้านบริการขนส่งกลุ่มสินค้า Overweight-Oversize-Odd size ที่ต้องมี Khow-How เฉพาะในการจัดการ พร้อมมุ่งหน้าสู่การพัฒนาเป็น Green Logistics ซึ่งในตลาดมีผู้เล่นน้อยราย และแทบไม่มีคู่แข่งรายอื่นใดให้บริการในวงกว้างได้ครบวงจร
3. ฐานลูกค้าหลากหลาย
TPL ให้บริการส่งสินค้าทั่วไทย ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงโดยการบาลานซ์พอร์ตลูกค้าทั้งประเภท ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ (B2B), ผู้ประกอบการกับผู้บริโภค (B2C) และ ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (C2C) ได้อย่างดีเยี่ยม มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน ส่งผลให้รายได้มีความมั่นคงสม่ำเสมอกว่า
4. มาร์จิ้นดี หนี้สินต่ำ
TPL มีผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2.41 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 278% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.90% จากงวดเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 18.04% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.53 เท่า
5. คุณสมบัติ High Growth หลังระดมทุนสำเร็จ
TPL จะนำเงินที่ได้จากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไปใช้ลดต้นทุนการเงินและสนับสนุนธุรกิจเช่นการปรับไปใช้รถบรรทุกจากพลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้น้ำมัน ขณะที่การลงทุนระบบ IT และการรุกขยายศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าเพิ่มทุกพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค ช่วยผลักดันการเติบโตได้ก้าวกระโดด
6.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
TPL อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนมาใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้รถน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันมีขบวนรถบรรทุกที่ใช้ในการขนส่งสินค้าทุกประเภท จำนวน 300 คัน และในส่วนของพันธมิตรอีก 100 คัน จากการศึกษาทดลองนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้งานจริงในครึ่งหลังของปีนี้ จะทำให้สามารถลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้กว่า 50% และถือเป็น Green Logistics
7. มีปันผลตอบแทนนักลงทุน
TPL มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น
รายละเอียดเพิ่มเติม
ราคาไอพีโอ 3.30 บาท/หุ้น
ไอพีโอจำนวน 120 ล้านหุ้น
พาร์ 0.50 บาท
เข้าซื้อขายตลาด mai
ซื้อขายวันแรก 30 มิ.ย. 2566
ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด
1. อยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต
TPL ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15-20% ซึ่งเป็นการเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 3-5% อีกทั้งการเติบโต e-Commerce ทั่วโลกรวมทั้งไทยจะยิ่งเป็นตัวเร่งให้กิจกรรมการขนส่งต่างๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
2. เป็นผู้นำและแตกต่างจากคู่แข่ง
TPL ให้บริการโลจิสติกส์ด้านบริการขนส่งกลุ่มสินค้า Overweight-Oversize-Odd size ที่ต้องมี Khow-How เฉพาะในการจัดการ พร้อมมุ่งหน้าสู่การพัฒนาเป็น Green Logistics ซึ่งในตลาดมีผู้เล่นน้อยราย และแทบไม่มีคู่แข่งรายอื่นใดให้บริการในวงกว้างได้ครบวงจร
3. ฐานลูกค้าหลากหลาย
TPL ให้บริการส่งสินค้าทั่วไทย ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงโดยการบาลานซ์พอร์ตลูกค้าทั้งประเภท ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ (B2B), ผู้ประกอบการกับผู้บริโภค (B2C) และ ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (C2C) ได้อย่างดีเยี่ยม มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน ส่งผลให้รายได้มีความมั่นคงสม่ำเสมอกว่า
4. มาร์จิ้นดี หนี้สินต่ำ
TPL มีผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2.41 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 278% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.90% จากงวดเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 18.04% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.53 เท่า
5. คุณสมบัติ High Growth หลังระดมทุนสำเร็จ
TPL จะนำเงินที่ได้จากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไปใช้ลดต้นทุนการเงินและสนับสนุนธุรกิจเช่นการปรับไปใช้รถบรรทุกจากพลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้น้ำมัน ขณะที่การลงทุนระบบ IT และการรุกขยายศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าเพิ่มทุกพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค ช่วยผลักดันการเติบโตได้ก้าวกระโดด
6.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
TPL อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนมาใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้รถน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันมีขบวนรถบรรทุกที่ใช้ในการขนส่งสินค้าทุกประเภท จำนวน 300 คัน และในส่วนของพันธมิตรอีก 100 คัน จากการศึกษาทดลองนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้งานจริงในครึ่งหลังของปีนี้ จะทำให้สามารถลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้กว่า 50% และถือเป็น Green Logistics
7. มีปันผลตอบแทนนักลงทุน
TPL มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น
รายละเอียดเพิ่มเติม
ราคาไอพีโอ 3.30 บาท/หุ้น
ไอพีโอจำนวน 120 ล้านหุ้น
พาร์ 0.50 บาท
เข้าซื้อขายตลาด mai
ซื้อขายวันแรก 30 มิ.ย. 2566
ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด