Wealth Sharing

ทีทีบี ชู “B+ESG”ตอกย้ำ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน”


30 มิถุนายน 2566
ทีทีบี ชูธง B+ESG ตอกย้ำเส้นทางความสำเร็จสู่ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” ชูธงทุกกลยุทธ์และแนวทางดำเนินธุรกิจ บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและความยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม พร้อมสนับสนุนให้ปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและกติกาใหม่ของโลก ด้วยองค์ความรู้และโซลูชันที่ตอบโจทย์

ทีทีบี ชู “B+ESG”ตอกย้ำ.jpg

นายปิติ  ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า  ทีทีบี ถือว่าเรื่องการสร้างความยั่งยืน หรือ Sustainability เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของธนาคาร ที่จะต้องให้การสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมให้สามารถดำเนินชีวิตหรือธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งทุกคนคงคุ้นเคยกับคำว่า ESG อยู่แล้ว แต่สำหรับทีทีบีได้เพิ่ม B หรือ Business Sustainability ไปด้วย เพราะเชื่อว่าเรื่องของการดำเนินธุรกิจและความยั่งยืนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ 

ซึ่งการดำเนินธุรกิจของทีทีบี ได้สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีและแก้ปัญหาให้กับผู้คนอย่างแท้จริง โดยมี Financial Well-being Solutions ช่วยให้ลูกค้าบุคคลสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้ยามมีวิกฤต อาทิ มีบัญชี all free ที่มอบฟรีประกันอุบัติเหตุและชีวิตให้ลูกค้า ส่งเสริมให้ลูกค้าที่เป็นหนี้ลดภาระดอกเบี้ยสูงผ่านการรวบหนี้ (Debt Consolidation) และได้ทยอยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนแอป ttb touch ที่จะช่วยสนับสนุนให้กลุ่มพนักงานเงินเดือนและคนมีรถจัดการเรื่องสำคัญของชีวิตได้อย่างครบวงจร 

ในมุมของลูกค้าธุรกิจ ทีทีบีเพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ “รถโดนใจ” ที่รวบรวมรถมือสองคุณภาพดีมาไว้ให้ลูกค้าเลือก สามารถจัดไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb DRIVE ครบจบในที่เดียว ปัจจุบันมีดีลเลอร์มาร่วมเป็นพันธมิตรกับรถโดนใจแล้วราว 900 ราย  นอกจากนี้ สิ่งที่ธนาคารทำมาตลอดกว่า 10 ปี คือ การให้องค์ความรู้ที่สำคัญกับลูกค้าธุรกิจผ่านการจัดอบรมหลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb ซึ่งทีทีบีได้เริ่มนำหัวข้อ ESG เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร โดยที่ผ่านมามีบริษัทเข้าร่วมกว่า 1,700 แห่ง และธนาคารยังจัดทำศูนย์กลางความรู้เชิงลึกที่มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ ภายใต้ชื่อ finbiz by ttb บน website มีผู้เข้าชมกว่า 1 แสนคนต่อปี ทั้งมีการจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานกว่า 700 บริษัท

นายปิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในบทบาทการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) เป็นธนาคารแห่งแรกที่ออกหุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางทะเล มูลค่ารวมมากกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินทุนไปสนับสนุนลูกค้าธุรกิจผ่านสินเชื่อสีเขียวและสีฟ้า และปล่อยสินเชื่อสีเขียวไปแล้วมากกว่า 13,000 ล้านบาท ในปี 2565 และตั้งเป้าจะปล่อยเพิ่มอีกมากกว่า 9,000 ล้านบาทภายในปี 2566 โดยปัจจุบันธนาคารเป็นผู้นำตลาดด้านการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ EV ราว 6,500 ล้านบาท 

“ความยั่งยืนด้านสังคม” หรือ Social Sustainability เป็นอีกเรื่องที่ทีทีบีให้ความสำคัญ โดยมีโครงการปันบุญเป็นพื้นที่ช่วยมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลให้สามารถเข้าถึงฐานผู้บริจาคได้มากขึ้น ปัจจุบันมีมูลนิธิที่ร่วมอยู่บนปันบุญมากกว่า 270 แห่ง ระดมเงินบริจาคไปแล้วมากกว่า 400 ล้านบาท  

พร้อมกันนี้ ทีทีบีได้จัดเสวนาพิเศษตอกย้ำให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของ ESG ในช่วงที่ 1 Empower Business towards Environmental Sustainability โดยมีนายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวถึงความสำคัญของ ESG ต่อภาคธุรกิจในอนาคตและการปรับตัวของผู้ประกอบการ และการสนับสนุนของธนาคารผ่านโซลูชันและองค์ความรู้ และนายยงยุทธ  เสฎฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการบริหารการเงินกลุ่มและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป พูดคุยถึงวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และการปรับตัวเพื่อก้าวสู่ความเป็น Blue Finance ของไทยยูเนี่ยน

ส่วนช่วงที่ 2 Empower Business towards Social Sustainability โดยนางกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต เล่าถึงจุดเริ่มต้นและความตั้งใจของธนาคารในการผลักดันโครงการปันบุญ 
“เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจ และ ESG จะเป็นเรื่องที่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน เราไม่เพียงมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน แต่ยังมุ่งขยายขอบเขตและความยั่งยืนให้เกิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง และนี่คืออีกหนึ่ง Mission หรือ หน้าที่ของธนาคารที่ให้การสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมของเราให้สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายปิติ กล่าวสรุป
TTB