รายงานพิเศษ : ไทยผู้นำใช้มือถือ 5G ในภูมิภาค หนุนผลงาน INET แกร่ง

Ericsson Thailand คาดประเทศไทยจะเป็นผู้นำใช้บริการโทรศัพท์มือถือ 5G ในภูมิภาคปี 68 การบริโภคข้อมูลในไทยเติบโตแข็งแกร่ง เกือบ 80 GB/เดือน  หนุนผลงาน บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET)  ซึ่งผู้บริหารมั่นใจไตรมาส2 เติบโตต่อเนื่อง 

Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนมิถุนายน 2566 รายงานจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ 5G มีแนวโน้มเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลกและคาดว่าจะมีจำนวนมากถึง 1.5 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2566 ขณะที่ปริมาณการใช้ Data ผ่านเครือข่ายมือถือทั่วโลก คาดว่าจะเกินกว่า 20 GB/เดือน ภายในสิ้นปี 2566 โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย คาดว่าจะมีปริมาณสูงถึง 54 GB/เดือน ภายในปี 2571 หรือเติบโตที่ร้อยละ 24 ต่อปี 

โดยในปี 2565 ประชากรในไทยมากกว่าร้อยละ 80 สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้แล้ว นอกจากนี้ Ericsson Thailand ยังระบุว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำด้าน 5G ในภูมิภาค พร้อมคาดการณ์ ปี 2568 การบริโภคข้อมูลในไทยจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เกือบ 80 GB/เดือน 
          
"ผลการรายงานดังกล่าว สะท้อนความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจากการดำเนินนโยบายอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล พร้อมทั้งขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ขานรับดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐบาล ทำให้ประเทศไทยมีอัตราการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ที่สูง เป็นปัจจัยที่เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของประเทศ รวมทั้ง เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างเต็มประสิทธิภาพ"นายอนุชาฯ บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ซึ่งหากกล่าวถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี  ต้องคิดถึงบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (INET) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร  โดยบริษัทแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 ลักษณะ  1. บริการ Cloud Solutions 2. บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet Access ) 3. บริการ Co-Location

นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ INET กล่าวว่า  บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 ยังมีการเติบโตได้ดี เนื่องจากความต้องการ Digital Transformation ในองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับ INET คือ Platform Service Provider ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ ในการพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึง มีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Infrastructure) ที่แข็งแกร่ง
       
"บริษัทได้ MOU ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ทั้ง สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ มีการปรับกลยุทธ์การขายที่เน้นการขายบริการที่มีกำไรได้ดี พร้อมมุ่งเน้นพัฒนา Innovation R&D เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการบนเทคโนโลยีของบริษัท ลดต้นทุนจ่ายออกที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจาก Vender ภายนอกรวมถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต" นางมรกต กล่าว
          
ขณะเดียวกัน INET อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำบริษัทร่วมทุน 3 บริษัทเข้าระดมทุนในตลาดทุน ประกอบด้วย บมจ.วัน อิเล็กทรอนิกส์ บิลลิ่ง มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านเอกสารภาษีและเอกสารการค้า และ บมจ.อินเทลลิจิสต์ เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้าน Big Data และ Data Analytics เข้าระดมทุนในตลาด LiVE Exchange ภายในไตรมาส 1/67 และบริษัท ไอเน็กซ์ บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสื่อสารบรอดแบนด์แบบครบวงจร (Broadband Service) เข้าระดมทุนในตลาด mai ภายในปี 68
          
สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์ม เฟส 1 จ.สระบุรี กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในปีนี้ ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของศูนย์ Data ที่ จ.สระบุรี ได้เป็นอย่างมาก และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย พร้อมกันนี้ บริษัทมุ่งขยายธุรกิจ Platform ผ่านบริษัทในเครือสำหรับการเป็น Digital Transformation Tooling เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ และยังคงรักษากลุ่มลูกค้าเดิม จึงเชื่อมั่นว่า ในปีนี้การเติบโตของ INET จะสามารถสร้างสถิติสูงสูดใหม่ได้