Wealth Sharing

บล.พาย คาดดัชนีหุ้นสัปดาห์นี้ 1490 – 1525 แนะเก็งกำไรหุ้นน้ำมัน - ค้าปลีก - แบงก์ - ท่องเที่ยว - โรงไฟฟ้า


04 กรกฎาคม 2566
บล.พายระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.8% หลังจากเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงมากกว่าตลาดคาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.75% ได้แรงหนุนจากเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ปรับลดลง

บล.พาย คาดดัชนีหุ้นสัปดาห์นี้ 1490 – 1525.jpg

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน พ.ค. ออกมาที่ 3.8%YoY, 0.1%MoM สอดคล้องกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม Core PCE รายงานออกมาที่ 4.6%YoY , 0.3%MoM ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 4.7%YoY องค์ประกอบภายในพบว่าราคาสินค้าภาพรวมลดลงเหลือ 1.1%YoY และราคาสินค้าไม่คงทนขยายตัวเพียง 1.3%YoY ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 2.9%YoY นอกจากนี้ราคาอาหารยังขยายตัวเพียง 5.8%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 6.9%YoY โดยราคาสินค้าที่ปรับลงแรงได้แก่การให้บริการเกี่ยวกับราคาพลังงาน (-3.9%YoY) จากเดือนก่อนหน้าขยายตัว 0.7%YoY ภายหลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่า US Bond Yield ทั้งอายุ 10 และ 2 ปีค่อนข้างทรงตัวและ CME FED Watch ก็ยังคงให้น้ำหนักระดับสูงราว 87% ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% 

สะท้อนว่าการรายงานเงินเฟ้อไม่ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดเท่าใดนัก ส่วนในประเทศช่วงบ่ายวันศุกร์ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดพบว่าขาดดุล 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯแย่กว่าที่ Bloomberg คาดว่าจะขาดดุลเพียง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังได้แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยพบว่าอยู่ในทิศทางฟื้นตัวโดยขยายตัวทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน 

สำหรับการลงทุนภาครัฐขยายตัวทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวเมื่อขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วฟื้นตัวต่อเนื่อง มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มอิงการบริโภค (BJC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ส่วนสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับ (1) เงินเฟ้อไทย Bloomberg ประเมินไว้ที่ 0.2%YoY (2) การเลือกประธานสภาฯ ข้อมูลล่าสุดระบุว่าจะอยู่ในวันที่ 4 ก.ค. หากพรรคก้าวไกลได้ประธานสภาฯก็เชื่อว่าจะช่วยหนุนตลาดหุ้น ส่วนสหรัฐฯ (1) วันจันทร์ทั้ง EU , US จะมีการรายงาน PMI ซึ่งส่วนใหญ่ยังเห็นภาวะหดตัว (2) ภาคแรงงานสหรัฐฯในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินการจ้างงาน 2.2 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 3.6% โดยประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้ 1490 – 1525 เชิงกลยุทธ์หลังจากแนะนำสะสมก่อนหน้าตอนนี้แนะถือต่อ ส่วน Trading ระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF)

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท)
CPN มีการแจ้งถึงการลงทุนเพิ่มใน CPNREIT โดยจะถือหุ้นเพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบันถือที่ระดับ 30% หลังจาก CPNREIT เตรียมเพิ่มทุนเพื่อใช้สำหรับต่อสัญญาโครงการเซ็นทรัลปิ่นเกล้าและ เซ็นทรัลพระราม 2 ซึ่งจะมีมูลค่ารวมประมาณ 26,000 ลบ. ผลจากการเข้าถือหุ้นเพิ่มอาจจะทำให้ CPN ต้องทำการรวมงบการเงินของ CPNREIT เข้ามาคาดว่าอย่างเร็วอาจจะเกิดในช่วงปลายปีนี้ เรามองว่าการถือหุ้นเพิ่มดังกล่าวจะเป็นผลดีกับ CPN ที่จะรับรู้กำไรเข้ามาได้มากขึ้น
KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 160.00 บาท)

เรายังคงสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปี 2023 ที่ 210bp และลดลงเป็น 190bp ในปี 2024 เพราะคาดว่าการระบายงบดุลจะแล้วเสร็จในปี 2023 แม้เราจะมีสมมติฐานด้านค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่รัดกุม แต่คาดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิของ KBANK จะกลับมาเป็นบวกที่ 15%/4% YoY ในปี 2023-24 (2022: -6%)
BRT