Wealth Sharing

PHG ลงสนามเทรดวันแรก 6 ก.ค. นี้ พร้อมเต็มร้อย มั่นใจพื้นฐานแกร่ง


05 กรกฎาคม 2566
“แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป” พร้อมเต็มร้อย ประเดิมสนามเทรดวันแรก 6 ก.ค.นี้ มั่นใจพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง โอกาสเติบโตโดดเด่น เชื่อนลท.ให้การตอบรับดีต่อเนื่อง

PHG ลงสนามเทรดวันแรก .jpg

นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการนำ PHG เข้าจดทะเบียน และซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยจะเข้าทำการซื้อขายวันแรกในวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 โดยกำหนดราคาเสนอขายที่หุ้นละ 21 บาท ซึ่งจากกระบวนการต่าง ๆ ที่ผ่านมาบริษัทฯได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน หรือโรดโชว์ รวมถึงในขั้นตอนของการจองซื้อหุ้น IPO ที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ครบทั้งจำนวน 54 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และโอกาสในการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทฯ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องในการเข้าทำการซื้อขายวันแรก

“เรามีความเชื่อมั่นในพื้นฐานของธุรกิจ และโอกาสที่เปิดกว้างในการเติบโตในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย และผู้ร่วมจัดจำหน่าย เพื่อที่จะนำเสนอข้อมูล และพื้นฐานธุรกิจให้กับนักลงทุน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่า PHG จะเป็น IPO น้องใหม่ที่จะได้รับการต้อนรับ และการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง” นายรณชิตกล่าว

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยว่า PHG มีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก พร้อมทั้งมีความมั่นใจว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดีจากพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง โครงสร้างรายได้ของ PHG มีความแข็งแกร่งมาจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ 51.17% ซึ่งประกอบไปด้วยลูกค้าเงินสด ลูกค้าที่ใช้สิทธิประกัน และลูกค้าคู่สัญญาและรายได้จากกลุ่มลูกค้าภายใต้สวัสดิการภาครัฐที่ 48.17% โดยหลักๆ ประกอบไปด้วยลูกค้าในโครงการประกันสังคม ถือว่ามีโครงสร้างรายได้ที่มีความมั่นคง และถ่วงดุลที่ดีจากทั้งสองกลุ่มลูกค้า ซึ่งภายหลังจากการเสนอขาย IPO แล้วนั้น PHG จะสามารถเพิ่มศักยภาพ และสร้างโอกาสในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดย PHG เสนอขายหุ้นจำนวน 54,000,000 หุ้น กำหนดราคาเสนอขายที่ 21 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หรือพาร์หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 18.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HELTH)

นางสาวพิมพ์พิชญธ์ ปรีชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม หรือ (Joint Lead Underwriter) เปิดเผยว่า PHG มีพื้นฐานธุรกิจ และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงการกำหนดราคาเสนอขายที่ราคาหุ้นละ 21 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ Price to Earnings Ratio : P/E ที่จำนวนหุ้นก่อน IPO 246 ล้านหุ้น เท่ากับ 21.65 เท่า และที่จำนวนหุ้นหลัง IPO 300 ล้านหุ้น เท่ากับ 26.58 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับกลุ่มอุตสาหกรรม มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน ที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และเมื่อรวมกับประมาณการการเติบโตจากแผนการขยายธุรกิจในอนาคต

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม หรือ (Joint Lead Underwriter) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจสำหรับการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก และเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดี จากการกำหนดราคาเสนอขายที่ 21 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งนักลงทุนได้จองซื้อหุ้นครบทั้งจำนวน 54 ล้านหุ้น สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งของ PHG โดย PHG เป็นรพ.เอกชนแห่งแรกในจังหวัดปทุมธานี และได้รับความนิยมอันดับต้นๆ มีศูนย์โรคหัวใจ 24 ชั่วโมง และเป็นรพ.เอกชนแห่งเดียวที่เป็นศูนย์รับส่งต่อการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวนระดับ 1 ของสปสช. เขต 4 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ของ PHG จะช่วย เพิ่มศักยภาพการให้บริการรักษาผู้ป่วย OPDและ IPD, ศูนย์ฟอกไต, เพิ่มโควต้าสปส. และขยายศูนย์แพทย์เฉพาะทางในเชิงลึกครอบคลุมการรักษาโรคมะเร็ง, โรคเวชกรรมฟื้นฟู และโรคทางนรีเวช ของ PHG ซึ่งจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต

โดย PHG ประกอบธุรกิจหลักคือให้บริการทางการแพทย์ภายใต้ กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ซึ่งประกอบไปด้วย โรงพยาบาลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต มีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง PHG มีประสบการณ์ในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนกว่า 36 ปี พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกว่า 20 สาขา และให้บริการศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมง ที่มีศักยภาพในการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด หรือ Open Heart Surgery ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดียวใน สปสช. เขต 4 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน ระดับ 1 และที่สำคัญกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิตยังมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคเฉพาะทางแม่และเด็ก โดยโรงพยาบาลมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและต่อยอดศักยภาพทางการแพทย์ด้านโรคเฉพาะทางผู้สูงอายุและ โรคผู้หญิง หรือโรคทางนรีเวชกรรม อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของการรักษาแบบตติยภูมิ

สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการช่วงปี 2566-2569 ได้แก่

1.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถภายในปี 2567

2.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 1
ภายในปี 2567

3.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 2 ภายในปี 2569

4.เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในปี 2567

5.เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงินบางส่วนภายในปี 2566 และ

6.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2566

ในขณะที่ผลประกอบการสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 - 2565 และสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104.64 ล้านบาท 317.48 ล้านบาท 293.10 ล้านบาท และ 44.55 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 6.73 ร้อยละ 15.99 ร้อยละ 14.27 และร้อยละ 9.11 ตามลำดับ