ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ตลาดตราสารหนี้ไทยมีมูลค่าคงค้างรวมเท่ากับ 16.4 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.1% ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยภาคเอกชนมีการออกหุ้นกู้ระยะยาว 617,664 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของยอดการออกในปี 2565 แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี จะมีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกนี้จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทย โดยรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 52 bps. จากสิ้นปีที่แล้วมาอยู่ที่ 2.15% ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2566 ขณะที่รุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps. มาอยู่ที่ 2.58% ซึ่งสะท้อนถึงอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำลง
![ตลาดตราสารหนี้ไทยครึ่งปีแรก.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2023/060723/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81.jpg)
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ตลาดตราสารหนี้ไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 มีมูลค่าเท่ากับ 16.4 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.1% จากสิ้นปีที่แล้วเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ ด้านการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีมูลค่า 617,664 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของมูลค่าการออกทั้งปี 2565 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นกู้ระยะยาวที่ออกในช่วงครึ่งปีแรก เป็นการเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป (PO: Public Offering) ในสัดส่วน 37% ของยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาว ซึ่งสูงขึ้นจากในปี 2565 ที่ 28%
สำหรับการออก ESG bond ในช่วง 2 ไตรมาสแรกปี 2566 เท่ากับ 92,427 ล้านบาท โดยจนถึงปัจจุบัน ผู้ออกภาคเอกชนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผู้ออก 3 รายในปี 2561 เป็น 23 ราย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 ด้วยมูลค่าคงค้าง ESG bond ของภาคเอกชนเท่ากับ 219,017 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ESG bond ประเภทตราสารหนี้สีเขียว (Green bond) ส่วนภาครัฐถือเป็นผู้ออกรายใหญ่ของ ESG bond ของไทยประเภทตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability bond)
กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 นักลงทุนต่างชาติมียอดการขายสุทธิสะสม 8.1 หมื่นล้านบาท จากการขายสุทธิตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุคงเหลือต่ำกว่า 1 ปี และซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะยาวที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 1 ปี ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 นักลงทุนต่างชาติมียอดการถือครอง ตราสารหนี้ไทยที่ 1 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6.1% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย โดยอายุคงเหลือเฉลี่ยของตราสารหนี้ไทยที่ถือครองเท่ากับ 8.1 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อสิ้นปี 2565 ที่ 8.0 ปี
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yield curve) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีความชันลดลง โดยรุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นตามการคาดการณ์การปรับขึ้นอัดราดอกเบี้ยนโยบาย ในขณะที่รุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป มีการปรับตัวลดลงตามอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำลง โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 Bond yield ไทยรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 52 bps. จากสิ้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.15% ส่วน Bond yield 10 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps. มาอยู่ที่ 2.58%
อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate bond yield curve) อายุ 5 ปีของหุ้นกู้ทุกอันดับเครดิตปรับตัวสูงขึ้น 19-33 bps. ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ใกล้เคียงกับการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 อันดับเครดิต AAA ปรับตัวมาอยู่ที่ 3.02% AA ที่ 3.29% A ที่ 3.58% BBB+ ที่ 4. 50% และ BBB ที่ 5.33%
สำหรับการประมาณการยอดการออกหุ้นกู้ในปี 2566 คุณอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) คาดว่าน่าจะได้เห็นยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาวไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท ด้วยมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวในครึ่งปีแรกแล้วกว่า 6 แสนล้านบาท ประกอบกับส่วนที่จะออกเพื่อทดแทนรุ่นที่ครบกำหนดไถ่ถอนในครึ่งหลังของปีและการออกเพื่อระดมเงินทุนใหม่รวมกันไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท
โดย ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวถึง ผลการสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของผู้ร่วมตลาด ที่ส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในครึ่งหลังของปี จาก 2.00% ไปสู่ระดับ 2.25% ขณะที่ Bond yield รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นในกรอบ 10-15 bps. จากสิ้นไตรมาส 2 ขึ้นไปที่ 2.47% สำหรับรุ่นอายุ 5 ปี และขึ้นไปที่ 2.70% สำหรับรุ่นอายุ 10 ปี ในปลายปี 2023 ตามทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯ
![ตลาดตราสารหนี้ไทยครึ่งปีแรก.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2023/060723/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81.jpg)
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ตลาดตราสารหนี้ไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 มีมูลค่าเท่ากับ 16.4 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.1% จากสิ้นปีที่แล้วเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ ด้านการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีมูลค่า 617,664 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของมูลค่าการออกทั้งปี 2565 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นกู้ระยะยาวที่ออกในช่วงครึ่งปีแรก เป็นการเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป (PO: Public Offering) ในสัดส่วน 37% ของยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาว ซึ่งสูงขึ้นจากในปี 2565 ที่ 28%
สำหรับการออก ESG bond ในช่วง 2 ไตรมาสแรกปี 2566 เท่ากับ 92,427 ล้านบาท โดยจนถึงปัจจุบัน ผู้ออกภาคเอกชนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผู้ออก 3 รายในปี 2561 เป็น 23 ราย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 ด้วยมูลค่าคงค้าง ESG bond ของภาคเอกชนเท่ากับ 219,017 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ESG bond ประเภทตราสารหนี้สีเขียว (Green bond) ส่วนภาครัฐถือเป็นผู้ออกรายใหญ่ของ ESG bond ของไทยประเภทตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability bond)
กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 นักลงทุนต่างชาติมียอดการขายสุทธิสะสม 8.1 หมื่นล้านบาท จากการขายสุทธิตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุคงเหลือต่ำกว่า 1 ปี และซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะยาวที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 1 ปี ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 นักลงทุนต่างชาติมียอดการถือครอง ตราสารหนี้ไทยที่ 1 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6.1% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย โดยอายุคงเหลือเฉลี่ยของตราสารหนี้ไทยที่ถือครองเท่ากับ 8.1 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อสิ้นปี 2565 ที่ 8.0 ปี
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yield curve) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีความชันลดลง โดยรุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นตามการคาดการณ์การปรับขึ้นอัดราดอกเบี้ยนโยบาย ในขณะที่รุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป มีการปรับตัวลดลงตามอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำลง โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 Bond yield ไทยรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 52 bps. จากสิ้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.15% ส่วน Bond yield 10 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps. มาอยู่ที่ 2.58%
อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate bond yield curve) อายุ 5 ปีของหุ้นกู้ทุกอันดับเครดิตปรับตัวสูงขึ้น 19-33 bps. ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ใกล้เคียงกับการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 อันดับเครดิต AAA ปรับตัวมาอยู่ที่ 3.02% AA ที่ 3.29% A ที่ 3.58% BBB+ ที่ 4. 50% และ BBB ที่ 5.33%
สำหรับการประมาณการยอดการออกหุ้นกู้ในปี 2566 คุณอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) คาดว่าน่าจะได้เห็นยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาวไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท ด้วยมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวในครึ่งปีแรกแล้วกว่า 6 แสนล้านบาท ประกอบกับส่วนที่จะออกเพื่อทดแทนรุ่นที่ครบกำหนดไถ่ถอนในครึ่งหลังของปีและการออกเพื่อระดมเงินทุนใหม่รวมกันไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท
โดย ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวถึง ผลการสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของผู้ร่วมตลาด ที่ส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในครึ่งหลังของปี จาก 2.00% ไปสู่ระดับ 2.25% ขณะที่ Bond yield รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นในกรอบ 10-15 bps. จากสิ้นไตรมาส 2 ขึ้นไปที่ 2.47% สำหรับรุ่นอายุ 5 ปี และขึ้นไปที่ 2.70% สำหรับรุ่นอายุ 10 ปี ในปลายปี 2023 ตามทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯ
ยอดนิยม
![EA ปีนี้รายได้โรงไฟฟ้า 9 พันลบ. ลั่น Adder หมดไม่กระทบ ชี้ยังมีเงินสดเข้า เชื่อธุรกิจรถเมล์ไฟฟ้าคุ้มทุนภายใน 1 ปี](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/WS%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)_EA%20%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%20copy_0.jpg)
EA ปีนี้รายได้โรงไฟฟ้า 9 พันลบ. ลั่น Adder หมดไม่กระทบ ชี้ยังมีเงินสดเข้า เชื่อธุรกิจรถเมล์ไฟฟ้าคุ้มทุนภายใน 1 ปี
![ส่องพอร์ตลงทุนล่าสุด! 6 เซียนหุ้นสาย VI ตัวจริง](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/WS%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)_%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94!%20copy.jpg)
ส่องพอร์ตลงทุนล่าสุด! 6 เซียนหุ้นสาย VI ตัวจริง
![ตั้งสำรองสูง! สินเชื่อส่วนบุคคลค้างชำระเพิ่มขึ้น ฉุดงบหุ้นแบงก์ไตรมาส 2/67 ไม่เด่น](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/WS%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)_%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87!%20copy_0.jpg)
ตั้งสำรองสูง! สินเชื่อส่วนบุคคลค้างชำระเพิ่มขึ้น ฉุดงบหุ้นแบงก์ไตรมาส 2/67 ไม่เด่น
![“อดิศักดิ์” ย้ำชัด!! ทั้ง JMART - JMT ไม่มีแผนเพิ่มทุน ลั่นตุนเงินสด พร้อมจ่ายคืนหุ้นกู้](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/030724/WS%20(%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A)%20%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E2%80%9D%20%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94!!_0.jpg)