บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC ได้จัดแถลงการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต รับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ความร่วมมือทางธุรกิจพัฒนาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระหว่าง ทีเคซี กรุ๊ป กับ บริษัท อีซี เคาน์ซิล โกลบอล เซอร์วิส จำกัด (EC-Council Global Services) ซึ่งเป็นบริษัทด้านไซเบอร์ ซิเคียวริตี้ระดับโลก
นายเจย์ บาวิซี ประธานบริษัท อีซี เคาน์ซิล โกลบอล เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า โลกกำลังถูกคุกคามด้วยอาชญากรรมทางไซเบอร์ แม้ว่าที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทั่วโลกหวาดกลัวคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 6.9 ล้านคน ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก แต่อาชญากรรมทางไซเบอร์สร้างความเสียหาย สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาล หากเทียบเป็นมูลค่าจะสูงเป็นอันดับ 3 ของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้การคุกคามทางไซเบอร์สร้างความเสียหายมากกว่า 8.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และอัตราการเติบโตของภัยทางไซเบอร์สูงขึ้นมากจากเลขหลักเดียว สู่ตัวเลข 2 หลัก
นายเจย์กล่าวว่า ประเทศไทย และอาเซียน กำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์แต่การรับมือและการอบรมบุคลากรให้มีความรู้ด้านนี้ยังน้อยมาก ขณะที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนารับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ความร่วมมือกับ ทีเคซี กรุ๊ป ครั้งนี้เป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในการพัฒนาขีดความสามารถในการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ทั้งการสร้างศูนย์ปฏิบัติการป้องกันฯ และการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อม
ด้าน นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเคซี คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC กล่าวว่า ในความร่วมมือ หรือ เอ็มโอยู ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ ทีเคซี จะได้รับการสนับสนุนจาก อีซี-เคาน์ซิล ใน 2 ด้าน คือ 1. ร่วมกันสร้างแนวทางสร้างศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ( Security Operation Center หรือ SOC ) ที่มีมาตรฐานระดับโลกขึ้นในประเทศไทย
2. การอบรมเพื่อสร้างบุคลากรในประเทศไทย ให้มีศักยภาพสูงสุดในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดย บริษัท ไอบีเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทในเครือ ทีเคซี จะเป็นผู้ได้รับสิทธิเพียงรายเดียวในประเทศในการขายสิทธิการอบรม ประเมิน เพื่อออกใบรับรองบุคลากรด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ มาตรฐานอีซี-เคาน์ซิล
“ความร่วมมือทั้งสองด้านนี้ เป็นการเดินตามแผนธุรกิจของบริษัททีเคซี ที่เราวางกลยุทธ์ที่จะมุ่งเน้นงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 8 สมาร์ทโซลูชั่นของแผนหลักทีเคซี” นายสยามกล่าว
นายสยามกล่าวอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ในความพยายามยกระดับขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อม และต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในประเทศไทย สร้างโลกดิจิทัลที่ปลอดภัยให้กับสังคมไทย
นายสยาม กล่าวด้วยว่า หลังจากการทำเอ็มโอยูแล้ว คาดว่าภายใน 4-5 เดือน จะลงทุนร่วม (Joint venture) ในการทำศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (SOC) ในขั้นแรก จัดตั้งงบประมาณไว้ที่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 175 ล้านบาท ส่วนด้านการฝึกอบรมด้านตั้งเป้ารุกเข้าอบรมเรื่องของไซเบอร์ซิเคียวริตี้ ให้มหาวิทยาลัยของรัฐบาล ปีแรกตั้งเป้าไว้ 10 แห่ง มีการพูดคุยเบื้องต้น 4- 5 แห่งแล้ว จากนั้นจะขยายไปยังองค์กรที่มีความอ่อนไหวต่อการคุกคามทางไซเบอร์ เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน สนามบิน เป็นต้น
นายสยามกล่าวอีกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ทีเคซี กรุ๊ป ก้าวสู่เป้าหมายการเพิ่มรายได้ด้านฝึกอบรมซิเคียวริตี้ จากสัดส่วน 3-4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เป็นตัวเลข 2 หลักต่อเนื่องไปอีก 5 ปีข้างหน้า อีกทั้งจะรับรู้รายได้ปลายปี 2566 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงนามบันทึกความร่วมมือ มีนายสยาม เตียวตรานนท์ นายเจย์ บาวิซี นายพิเชษฐ์ เดชเดชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอบีเอส คอร์เปอเรชั่น จำกัด และนายฌอน ลิม รองประธานอาวุโส บริษัท EC – Council International จำกัด เป็นผู้ร่วมลงนาม
นายเจย์ บาวิซี ประธานบริษัท อีซี เคาน์ซิล โกลบอล เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า โลกกำลังถูกคุกคามด้วยอาชญากรรมทางไซเบอร์ แม้ว่าที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทั่วโลกหวาดกลัวคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 6.9 ล้านคน ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก แต่อาชญากรรมทางไซเบอร์สร้างความเสียหาย สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาล หากเทียบเป็นมูลค่าจะสูงเป็นอันดับ 3 ของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้การคุกคามทางไซเบอร์สร้างความเสียหายมากกว่า 8.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และอัตราการเติบโตของภัยทางไซเบอร์สูงขึ้นมากจากเลขหลักเดียว สู่ตัวเลข 2 หลัก
นายเจย์กล่าวว่า ประเทศไทย และอาเซียน กำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์แต่การรับมือและการอบรมบุคลากรให้มีความรู้ด้านนี้ยังน้อยมาก ขณะที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนารับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ความร่วมมือกับ ทีเคซี กรุ๊ป ครั้งนี้เป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในการพัฒนาขีดความสามารถในการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ ทั้งการสร้างศูนย์ปฏิบัติการป้องกันฯ และการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อม
ด้าน นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเคซี คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC กล่าวว่า ในความร่วมมือ หรือ เอ็มโอยู ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ ทีเคซี จะได้รับการสนับสนุนจาก อีซี-เคาน์ซิล ใน 2 ด้าน คือ 1. ร่วมกันสร้างแนวทางสร้างศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ( Security Operation Center หรือ SOC ) ที่มีมาตรฐานระดับโลกขึ้นในประเทศไทย
2. การอบรมเพื่อสร้างบุคลากรในประเทศไทย ให้มีศักยภาพสูงสุดในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดย บริษัท ไอบีเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทในเครือ ทีเคซี จะเป็นผู้ได้รับสิทธิเพียงรายเดียวในประเทศในการขายสิทธิการอบรม ประเมิน เพื่อออกใบรับรองบุคลากรด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ มาตรฐานอีซี-เคาน์ซิล
“ความร่วมมือทั้งสองด้านนี้ เป็นการเดินตามแผนธุรกิจของบริษัททีเคซี ที่เราวางกลยุทธ์ที่จะมุ่งเน้นงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 8 สมาร์ทโซลูชั่นของแผนหลักทีเคซี” นายสยามกล่าว
นายสยามกล่าวอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ในความพยายามยกระดับขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อม และต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในประเทศไทย สร้างโลกดิจิทัลที่ปลอดภัยให้กับสังคมไทย
นายสยาม กล่าวด้วยว่า หลังจากการทำเอ็มโอยูแล้ว คาดว่าภายใน 4-5 เดือน จะลงทุนร่วม (Joint venture) ในการทำศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (SOC) ในขั้นแรก จัดตั้งงบประมาณไว้ที่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 175 ล้านบาท ส่วนด้านการฝึกอบรมด้านตั้งเป้ารุกเข้าอบรมเรื่องของไซเบอร์ซิเคียวริตี้ ให้มหาวิทยาลัยของรัฐบาล ปีแรกตั้งเป้าไว้ 10 แห่ง มีการพูดคุยเบื้องต้น 4- 5 แห่งแล้ว จากนั้นจะขยายไปยังองค์กรที่มีความอ่อนไหวต่อการคุกคามทางไซเบอร์ เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน สนามบิน เป็นต้น
นายสยามกล่าวอีกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ทีเคซี กรุ๊ป ก้าวสู่เป้าหมายการเพิ่มรายได้ด้านฝึกอบรมซิเคียวริตี้ จากสัดส่วน 3-4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เป็นตัวเลข 2 หลักต่อเนื่องไปอีก 5 ปีข้างหน้า อีกทั้งจะรับรู้รายได้ปลายปี 2566 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงนามบันทึกความร่วมมือ มีนายสยาม เตียวตรานนท์ นายเจย์ บาวิซี นายพิเชษฐ์ เดชเดชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอบีเอส คอร์เปอเรชั่น จำกัด และนายฌอน ลิม รองประธานอาวุโส บริษัท EC – Council International จำกัด เป็นผู้ร่วมลงนาม