จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : TEGH เข้าคำนวณดัชนี sSETสะท้อนความแกร่ง เดินหน้าธุรกิจ ต่อยอด BCG Model
07 กรกฎาคม 2566
บมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TEGH ติดโผ เข้าคำนวณดัชนีsSET สะท้อนความแข็งแกร่ง ส่วนธุรกิจเดินหน้าซื้อขายก๊าซชีวภาพ เซ็นสัญญามูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ต่อยอด BCG Model ผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 SET100 sSET SETCLMV SETHD SETTHSI และ SETWB ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 (1 ก.ค. - 31 ธ.ค.) ซึ่งบมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TEGH ติดโผเข้าคำนวณดัชนีsSET ซึ่งสะท้อนพื้นฐานแกร่ง มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอ
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ TEGH ระบุบริษัทฯ เป็น 1 ใน 21 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์เข้าใหม่สะท้อนว่า เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยตามที่กำหนด ซึ่งการเข้าคำนวณดัชนีsSET จะทำให้ TEGH เป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีราคา sSETเป็นดัชนีราคาหุ้นที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญ ซึ่งอยู่นอกเหนือดัชนีSET50 และSET100 ที่มีอยู่เดิม กลุ่มหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นสามัญที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float)ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่าง 1 มิถุนายน 2565 ถึง 31พฤษภาคม 2566
ซึ่งการทำธุรกิจของบริษัทยังคงเน้นการสร้างมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทและลูกค้า โดยล่าสุดประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEGH “เฉลิม โกกนุทาภรณ์” ระบุ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด หรือ TEBP ซึ่งเป็นบริษัทฯ ย่อย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เพื่อการทำสัญญาซื้อขายก๊าซชีวภาพ
โดย GGC มีความประสงค์ที่จะซื้อก๊าซชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิต โดยมีปริมาณรวมในเบื้องต้นสูงสุด 21 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ระยะเวลาทั้งสิ้น 7 ปี ซึ่งประมาณการรายได้ที่ TEBPจะได้รับจากการขายก๊าซชีวภาพภายใต้สัญญาฉบับนี้ อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละประมาณ 150 ล้านบาท เป็นการเสริมเสถียรภาพรายได้ของTEBPที่มีแผนจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ภายใน3ปีข้างหน้า
“การร่วมมือกันในครั้งนี้ ทำให้ภาพของ BCG Model ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง และนับเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่เราจะได้เห็น Biodiesel ที่ผลิตจาก Green Energy ที่น่าจะเป็นแห่งแรกของโลก ซึ่งเป็น Supply Chain ที่สำคัญของปาล์มน้ำมันครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โครงการนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ TEGH และ GGC ในการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจต่อไป” นายเฉลิม กล่าว
โดยขณะนี้โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ เฟสที่ 1 พร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วในไตรมาส 2/2566 ส่วนเฟสที่ 2 ตามแผนจะ COD ในปี 2567 โดยทั้งสองโครงการฯ นี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 700 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 70,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่วนขยายนี้มีลูกค้ารองรับเกือบทั้งหมดแล้ว และมีอีกหลายรายที่ให้ความสนใจและอยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งบริษัทก็เตรียมวางแผนที่จะขยายโครงการเพิ่มต่อไปในอนาคต
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 SET100 sSET SETCLMV SETHD SETTHSI และ SETWB ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 (1 ก.ค. - 31 ธ.ค.) ซึ่งบมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TEGH ติดโผเข้าคำนวณดัชนีsSET ซึ่งสะท้อนพื้นฐานแกร่ง มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอ
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ TEGH ระบุบริษัทฯ เป็น 1 ใน 21 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์เข้าใหม่สะท้อนว่า เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยตามที่กำหนด ซึ่งการเข้าคำนวณดัชนีsSET จะทำให้ TEGH เป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีราคา sSETเป็นดัชนีราคาหุ้นที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญ ซึ่งอยู่นอกเหนือดัชนีSET50 และSET100 ที่มีอยู่เดิม กลุ่มหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นสามัญที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float)ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่าง 1 มิถุนายน 2565 ถึง 31พฤษภาคม 2566
ซึ่งการทำธุรกิจของบริษัทยังคงเน้นการสร้างมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทและลูกค้า โดยล่าสุดประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEGH “เฉลิม โกกนุทาภรณ์” ระบุ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด หรือ TEBP ซึ่งเป็นบริษัทฯ ย่อย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เพื่อการทำสัญญาซื้อขายก๊าซชีวภาพ
โดย GGC มีความประสงค์ที่จะซื้อก๊าซชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิต โดยมีปริมาณรวมในเบื้องต้นสูงสุด 21 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ระยะเวลาทั้งสิ้น 7 ปี ซึ่งประมาณการรายได้ที่ TEBPจะได้รับจากการขายก๊าซชีวภาพภายใต้สัญญาฉบับนี้ อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละประมาณ 150 ล้านบาท เป็นการเสริมเสถียรภาพรายได้ของTEBPที่มีแผนจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ภายใน3ปีข้างหน้า
“การร่วมมือกันในครั้งนี้ ทำให้ภาพของ BCG Model ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง และนับเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่เราจะได้เห็น Biodiesel ที่ผลิตจาก Green Energy ที่น่าจะเป็นแห่งแรกของโลก ซึ่งเป็น Supply Chain ที่สำคัญของปาล์มน้ำมันครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โครงการนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ TEGH และ GGC ในการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจต่อไป” นายเฉลิม กล่าว
โดยขณะนี้โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ เฟสที่ 1 พร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วในไตรมาส 2/2566 ส่วนเฟสที่ 2 ตามแผนจะ COD ในปี 2567 โดยทั้งสองโครงการฯ นี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 700 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 70,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่วนขยายนี้มีลูกค้ารองรับเกือบทั้งหมดแล้ว และมีอีกหลายรายที่ให้ความสนใจและอยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งบริษัทก็เตรียมวางแผนที่จะขยายโครงการเพิ่มต่อไปในอนาคต