เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 18-07-23
18-07-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
****แม้ว่าเรื่องราวของการเมืองไทยเรา จะยังไม่ มีข้อสรุปแต่ก็เห็นความชัดเจนมากขึ้น โดยเริ่มเห็นโอกาสที่ "พรรคเพื่อไทย" จะขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมีมากขึ้น ภาวะที่นักลงทุนเริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ก็น่าจะทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นชัดเจนขึ้นมาระดับหนึ่งเช่นกัน ทางด้านกูรูหุ้นบอกว่ากลยุทธ์การ ลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นพื้นฐานแกร่งที่ย่อลงมาลึกจากความกังวลการเปลี่ยนผ่านนโยบายทางการเมือง หรือกลัวผลกระทบนโยบายก้าวไกล คาดหวังผลกำไรช่วงสั้นได้ อาทิ STEC- SAWAD -EA -GPSC -TRUE- SCGP -CBG -PLANB -GULF -MTC- BEM -HMPRO เป็นต้น
***แต่มีอีกปรากฎการณ์หนึ่งที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน แต่ถูกหยิบมาเป็นประเด็นโยงกับการลงทุนได้คือเรื่องผลกระทบเอลนีโญ มีการประเมินว่าบนกรณีที่ El Niño ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตร จนทำให้ราคาสินค้า เกษตรเพิ่มขึ้น เปิดความเสี่ยงด้านสูงต่อเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ช่วงปลายปี แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญสูงขึ้น (ภัยแล้ง หนัก ฝนขาดช่วง) ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันกำไรบริษัทจดทะเบียนในบางกลุ่ม คือ
1.กลุ่มเกษตร KSL ถูกกดดันจากปริมาณผลผลิตการเกษรตรลดน้อยลง, GFPT TFG ถูกกดดันจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น (ทั้งจากราคาอาหารแพง และสัตว์เลี้ยง ยังบริโภคอาหารและน้ำสูงขึ้นในช่วงแล้ง)
2.กลุ่มพลังงานน้ำ CKP จากปริมาณน้ำในเขื่อนลดลง
ในทางตรงกันข้ามมีหุ้นที่ได้ Sentiment เชิงบวก คือ
1.กลุ่มธุรกิจน้ำดิบ – น้ำประปา อาทิ TTW, EASTW คาดในช่วงสั้น ปริมาณน้ำสำรอง ในแหล่งเก็บน้ำจะยังคงมีเพียงพอต่อการบริหารจัดการ โดยสภาวะภัยแล้งจาก เหตุการณ์เอลนีโญ คาดจะเป็นแรงหนุนให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมมีปริมาณน้ำสำรอง น้อยลง และหันมาเรียกซื้อน้ำกับทางผู้ประกอบการน้ำดิบมากขึ้น ประกอบการเข้าสู่ ช่วงฤดูร้อน ซึ่งโดยปกติจะถือเป็นช่วง high season ของการใช้น้ำโดยรวมทั้งในภาค ครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม จึงคาดปริมาณขายน้ำของกลุ่มสาธารณูปโภคในช่วง 2Q66 จะเห็นการเติบโต YoY
2. กลุ่มอาหารสัตว์ ASIAN, ITC, AAI, CPF ถูกกดดันจากราคาอาหารแพง และสัตว์ เลี้ยงยังบริโภคอาหารและน้ำสูงขึ้นในช่วงแล้ง
3. กลุ่มเครื่องดื่ม (หากอากาศร้อนขึ้น) ดีต่ออุปสงค์ธุรกิจเครื่องดื่ม CBG, ICHI, SAPPE
***ไม่ได้เงียบนะคะคุนข๋า ผู้บริหาร PRM ของเรา..ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต แปลว่า..ยุ่งมากๆๆๆๆ บอส "วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์" บอกว่า “มุมมองธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงจากครึ่งปีแรก โดยในปีนี้ การเติบโตคือการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนเมื่อปี 2564-2565 จากการที่เรือ VLCC ที่เริ่มเข้างานในปี 2565 จะทำงานเต็มปี เรือขนส่งน้ำมันในประเทศจะมีโอกาสขยายตัวเมื่อเทียบกับปี 2564-2565 จากการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นภายหลังการเปิดประเทศ การได้รับสัญญาใหม่ของเรือ Accommodation Work Barge (AWB) การที่เรือขนส่งปิโตรเคมีขนาด 11,000 DWT ที่ซื้อเพิ่มเติมในไตรมาส 1/2566 จะเข้างานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป”
***กลยุทธ์ครึ่งหลังปีนี้ PRM จะขยายใน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ เรือขนส่งปิโตรเคมี ยังมีมุมมองในเรื่องความต้องการใช้เรือขนส่งปิโตรเคมี จะยังไม่ถูก Disruption จากการเข้ามาของรถ EV และการขนส่งปิโตรเคมียังมีแนวโน้มที่ดีจากการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในครึ่งปีหลังบริษัทมองแผนการลงทุนซื้อเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มเติม อีกอย่างน้อย 1-2 ลำ
***ส่วนเรือกลุ่ม Offshore Support เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของผู้ได้รับสัมปทานการสำรวจและผลิตน้ำมันในอ่าวไทย นอกเหนือจากเรือ Crew Boat จำนวน 2 ลำที่ PRM ได้สั่งต่อไปแล้ว บริษัทฯยังมองถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนเรือในกลุ่มนี้ เพิ่มเติม เช่นเดียวกับที่เคยทำได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565
***มาถึงว่าที่ IPO น้องใหม่ I2 หรือ บมจ.ไอทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ ยิ่งได้รู้ข้อมูล..บอกเลยว่าเจ๊จิ๋มยิ่งอยากได้หุ้นมากกกกกกก มองไปทางไหนก้อดีไปทุกมุม ทั้งพื้นฐานรายได้ที่เน้นงานภาครัฐเกือบ 100% เป็นงานขายและบริการงานโครงการด้าน IT ที่มีความหลากหลาย ทั้งการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ การทำระบบโครงข่าย งานสายสื่อสาร งานระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมในพื้นที่ห่างไกล (USO) มาพร้อมกับทีมผู้บริหารและพนักงานที่มีประสบการณ์ และเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตและพัฒนาวอฟท์แวร์ระดับโลก สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ...แบบนี้แหล่ะที่เค้าเรียกว่า "ครบเครื่อง" ต้องจัดหามาให้ได้หุ้น I2 ตัวนี้..เจ๊ต้องมีติดพอร์ต!!!!
***ปิดท้ายวันนี้ขอปรบมือรัวๆ ชื่นชม รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ บิ๊กบอส บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) ที่ลุยปรับโครงสร้างธุรกิจเข้าสู่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์จนทำให้ธุรกิจพลิกฟื้นกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมทำกำไรต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 62 -ไตรมาส 1/66 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมในการกลับเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง!!! เจ๊จิ๋มเอาใจช่วยค่ะ..ขอให้ได้กลับมาเร็วๆ นะ
18-07-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
****แม้ว่าเรื่องราวของการเมืองไทยเรา จะยังไม่ มีข้อสรุปแต่ก็เห็นความชัดเจนมากขึ้น โดยเริ่มเห็นโอกาสที่ "พรรคเพื่อไทย" จะขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมีมากขึ้น ภาวะที่นักลงทุนเริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ก็น่าจะทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นชัดเจนขึ้นมาระดับหนึ่งเช่นกัน ทางด้านกูรูหุ้นบอกว่ากลยุทธ์การ ลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นพื้นฐานแกร่งที่ย่อลงมาลึกจากความกังวลการเปลี่ยนผ่านนโยบายทางการเมือง หรือกลัวผลกระทบนโยบายก้าวไกล คาดหวังผลกำไรช่วงสั้นได้ อาทิ STEC- SAWAD -EA -GPSC -TRUE- SCGP -CBG -PLANB -GULF -MTC- BEM -HMPRO เป็นต้น
***แต่มีอีกปรากฎการณ์หนึ่งที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน แต่ถูกหยิบมาเป็นประเด็นโยงกับการลงทุนได้คือเรื่องผลกระทบเอลนีโญ มีการประเมินว่าบนกรณีที่ El Niño ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตร จนทำให้ราคาสินค้า เกษตรเพิ่มขึ้น เปิดความเสี่ยงด้านสูงต่อเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ช่วงปลายปี แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญสูงขึ้น (ภัยแล้ง หนัก ฝนขาดช่วง) ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันกำไรบริษัทจดทะเบียนในบางกลุ่ม คือ
1.กลุ่มเกษตร KSL ถูกกดดันจากปริมาณผลผลิตการเกษรตรลดน้อยลง, GFPT TFG ถูกกดดันจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น (ทั้งจากราคาอาหารแพง และสัตว์เลี้ยง ยังบริโภคอาหารและน้ำสูงขึ้นในช่วงแล้ง)
2.กลุ่มพลังงานน้ำ CKP จากปริมาณน้ำในเขื่อนลดลง
ในทางตรงกันข้ามมีหุ้นที่ได้ Sentiment เชิงบวก คือ
1.กลุ่มธุรกิจน้ำดิบ – น้ำประปา อาทิ TTW, EASTW คาดในช่วงสั้น ปริมาณน้ำสำรอง ในแหล่งเก็บน้ำจะยังคงมีเพียงพอต่อการบริหารจัดการ โดยสภาวะภัยแล้งจาก เหตุการณ์เอลนีโญ คาดจะเป็นแรงหนุนให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมมีปริมาณน้ำสำรอง น้อยลง และหันมาเรียกซื้อน้ำกับทางผู้ประกอบการน้ำดิบมากขึ้น ประกอบการเข้าสู่ ช่วงฤดูร้อน ซึ่งโดยปกติจะถือเป็นช่วง high season ของการใช้น้ำโดยรวมทั้งในภาค ครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม จึงคาดปริมาณขายน้ำของกลุ่มสาธารณูปโภคในช่วง 2Q66 จะเห็นการเติบโต YoY
2. กลุ่มอาหารสัตว์ ASIAN, ITC, AAI, CPF ถูกกดดันจากราคาอาหารแพง และสัตว์ เลี้ยงยังบริโภคอาหารและน้ำสูงขึ้นในช่วงแล้ง
3. กลุ่มเครื่องดื่ม (หากอากาศร้อนขึ้น) ดีต่ออุปสงค์ธุรกิจเครื่องดื่ม CBG, ICHI, SAPPE
***ไม่ได้เงียบนะคะคุนข๋า ผู้บริหาร PRM ของเรา..ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต แปลว่า..ยุ่งมากๆๆๆๆ บอส "วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์" บอกว่า “มุมมองธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงจากครึ่งปีแรก โดยในปีนี้ การเติบโตคือการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนเมื่อปี 2564-2565 จากการที่เรือ VLCC ที่เริ่มเข้างานในปี 2565 จะทำงานเต็มปี เรือขนส่งน้ำมันในประเทศจะมีโอกาสขยายตัวเมื่อเทียบกับปี 2564-2565 จากการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นภายหลังการเปิดประเทศ การได้รับสัญญาใหม่ของเรือ Accommodation Work Barge (AWB) การที่เรือขนส่งปิโตรเคมีขนาด 11,000 DWT ที่ซื้อเพิ่มเติมในไตรมาส 1/2566 จะเข้างานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป”
***กลยุทธ์ครึ่งหลังปีนี้ PRM จะขยายใน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ เรือขนส่งปิโตรเคมี ยังมีมุมมองในเรื่องความต้องการใช้เรือขนส่งปิโตรเคมี จะยังไม่ถูก Disruption จากการเข้ามาของรถ EV และการขนส่งปิโตรเคมียังมีแนวโน้มที่ดีจากการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในครึ่งปีหลังบริษัทมองแผนการลงทุนซื้อเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มเติม อีกอย่างน้อย 1-2 ลำ
***ส่วนเรือกลุ่ม Offshore Support เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของผู้ได้รับสัมปทานการสำรวจและผลิตน้ำมันในอ่าวไทย นอกเหนือจากเรือ Crew Boat จำนวน 2 ลำที่ PRM ได้สั่งต่อไปแล้ว บริษัทฯยังมองถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนเรือในกลุ่มนี้ เพิ่มเติม เช่นเดียวกับที่เคยทำได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565
***มาถึงว่าที่ IPO น้องใหม่ I2 หรือ บมจ.ไอทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ ยิ่งได้รู้ข้อมูล..บอกเลยว่าเจ๊จิ๋มยิ่งอยากได้หุ้นมากกกกกกก มองไปทางไหนก้อดีไปทุกมุม ทั้งพื้นฐานรายได้ที่เน้นงานภาครัฐเกือบ 100% เป็นงานขายและบริการงานโครงการด้าน IT ที่มีความหลากหลาย ทั้งการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ การทำระบบโครงข่าย งานสายสื่อสาร งานระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมในพื้นที่ห่างไกล (USO) มาพร้อมกับทีมผู้บริหารและพนักงานที่มีประสบการณ์ และเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตและพัฒนาวอฟท์แวร์ระดับโลก สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ...แบบนี้แหล่ะที่เค้าเรียกว่า "ครบเครื่อง" ต้องจัดหามาให้ได้หุ้น I2 ตัวนี้..เจ๊ต้องมีติดพอร์ต!!!!
***ปิดท้ายวันนี้ขอปรบมือรัวๆ ชื่นชม รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ บิ๊กบอส บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) ที่ลุยปรับโครงสร้างธุรกิจเข้าสู่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์จนทำให้ธุรกิจพลิกฟื้นกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมทำกำไรต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 62 -ไตรมาส 1/66 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมในการกลับเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง!!! เจ๊จิ๋มเอาใจช่วยค่ะ..ขอให้ได้กลับมาเร็วๆ นะ