by.พูเมซ่า
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม 2566 ดัชนีหุ้นเริ่มทยอยฟื้นตัวหลังสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่ชัดเจนในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ทั้งนี้ บล.บัวหลวงประเมินว่า ยังให้เหตุผลหลักในการ Buy on Dips ด้วย Valuation ของราคาหุ้นที่ถูก โดยมองข้ามปัจจัยมหภาคที่นักลงทุนส่วนใหญ่ กำลังให้น้ำหนักในระยะสั้น เช่น การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ในการประชุม 25-26 กค.นี้, การจัดตั้งรัฐบาลไทย โหวตเลือกนายกรอบสอง ตลอดจนความวิตกกังวลการชุมนุมในประเทศ
นอกจากนี้ งบการเงินที่จะทยอยประกาศ เราเล็งเห็นระดับราคาหุ้น ณ.ปัจจุบัน หลายตัว ซึ่งมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล พบว่ามีผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลที่สูงขึ้นจาก 1) แนวโน้มกำไรครึ่งปีแรกที่กลับมาฟื้นตัวจากการเปิดประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบเต็มรูปแบบ 2) ราคาหุ้นที่ลงแรงหลายตัวขึ้นมาน้อย จึงยังให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง และเป็นกันชนสำคัญ ช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านล่างของราคาหุ้น
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงยืนยันเหมือนเดิม แนะซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัว หุ้นบูลชิพใหญ่ หุ้นพื้นฐาน หุ้นคุณค่าราคาย่อมเยาไว้ คาดเหลือความเสี่ยงด้านล่างอีกไม่มาก
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนการลงทุนของ "ชูเกียรติ รุจนพรพจี" ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือSABUY ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยถือครองหุ้นจำนวน 3 บริษัท มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท ดังนี้
หุ้น |
จำนวน(หุ้น) |
%การถือครอง |
AIT |
37,350,000 |
2.61 |
SABUY |
445,721,045 |
25.53 |
THREL |
67,790,000 |
11.3 |
จากข้อมูลดังกล่าว หากนำมาเปรียบเทียบกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นในครั้งก่อนของทั้ง 3 บริษัทยังพบว่า "ชูเกียรติ รุจนพรพจี"ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น 2 แห่ง ประกอบด้วย หุ้นAIT ล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2566 ถือครองหุ้น 37,350,000 หุ้นคิดเป็น2.61% เพิ่มขึ้นจากการปิดสมุดทะเบียนในครั้งก่อนถือหุ้นจำนวน 36,550,000 หุ้น คิดเป็น 2.55%
รวมทั้งได้เพิ่มการถือครองหุ้นTHREL ล่าสุดถือครองจำนวน 67,790,000 หุ้น คิดเป็น 11.3 %ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จากเดิมถือครองจำนวน 45,300,000 หุ้น คิดเป็น 7.55%
สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ถือครองหุ้นAIT เพิ่มขึ้นน่าจะเกิดจากการที่บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)SABUY ซึ่งถือหุ้นAIT จำนวน 237,600,000 หุ้น หรือคิดเป็น 16.60% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ รวมทั้งบริษัท ที. เค. เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)TKS ซึ่งถือหุ้น AIT จำนวน 48,168,900 หุ้น หรือคิดเป็น3.37% และ นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ซึ่งถือหุ้นAIT จำนวน 36,550,000 หุ้น หรือคิดเป็น2.55% (ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 รายข้างต้นถือหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 22.52% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด) โดยส่งหนังสือดังกล่าวถึง นายธนา ไชยประสิทธิ์ในฐานะประธานกรรมการบริษัทฯAIT เพื่อขอให้คณะกรรมการบริษัทฯ เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2566 ของบริษัทฯ ตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจ ากัด พ.ศ. 2535 โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทAIT ได้มีมติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 ในวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2566 เวลา 15.30 น
อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามว่า การประชุมEGM ของAIT ในครั้งนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่มีสัดส่วนการถือหุ้นในสัดส่วนใกล้เคียงกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นAIT ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ประกอบด้วย
รายชื่อ |
จำนวน(หุ้น) |
%การถือครอง |
สบาย เทคโนโลยี |
237,600,000 |
16.6 |
ศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ |
53,766,125 |
3.76 |
ศศิเนตร พหลโยธิน |
51,720,862 |
3.61 |
กิตติศักดิ์ สพโชคชัย |
51,559,942 |
3.6 |
ที.เค.เอส. เทคโนโลยี |
48,168,900 |
3.37 |
โชดิวัต ดั่นธนสาร |
45,000,000 |
3.14 |
สุรพร รักตประจิต |
40,919,137 |
2.86 |
ชูเกียรติ รุจนพรพจี |
37,350,000 |
2.61 |
ศิณะ อุ่นทรพันธุ์ |
34,007,200 |
2.38 |
ศิณานางค์ อุ่นทรพันธุ์ |
33,513,540 |
2.34 |