จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : TIDLOR กำไรครึ่งปีหลังฟื้น โบรกฯปรับคำแนะนำเป็น “TRADING BUY”
21 กรกฎาคม 2566
ในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอ ปัญหาเรื่องสภาพคล่องจึงยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อภาคธุรกิจ ส่งผลดีต่อธุรกิจของ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) ทำให้บล. กรุงศรี พัฒนสิน ปรับคำแนะนำเป็น “TRADING BUY”
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์หุ้น บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) โดยคาดการณ์ว่า วันที่ 10/8/2023 TIDLOR รายงานกำไรสุทธิ2Q23F ที่ 900 ลบ. ลดลง -8% y-y และ -6% q-q เพราะ
i) ค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) เพิ่มขึ้น +139% y-y และ +7% q-q จากคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ Gross NPL เพิ่มขึ้น +40% y-y และ +11%q-q ทำให้ NPL Ratio อยู่ที่1.60%เพิ่มจาก 1Q23 ที่1.50%
ii) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) เพิ่มขึ้น +21% y-y และ +4% q-q จากค่าใช้จ่ายการตลาด และค่าใช้จ่าย IT กลบการเพิ่มขึ้นของรายได้รวม +20% y-y และ +1% q-q จากสินเชื่อรวมเติบโต +22% y-y และ +4% q-q คิดเป็น +6% YTD เพราะความต้องการสินเชื่อที่มีอยู่มาก และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบางกลุ่มลดลง
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ยังคาดการณ์รายได้ดอกเบี้ย NII ที่ 3,264 ลบ. (+21% y-y, +3% q-q): เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เพราะการเติบโตของสินเชื่อรวม +22% y-y และ +4% q-q คิดเป็น +6% YTD จากความต้องการสินเชื่อที่มีอยู่มาก และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบางกลุ่มลดลง ในไตรมาสนี้ไม่มีการเปิดสาขาเพิ่ม ทำให้ 2Q23F มี จำนวนสาขาทั้งหมด 1,629 สาขา สำหรับ NIM อยู่ที่15.41% ลดลงจาก 1Q23 ที่15.45% เพราะต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น
คาดการณ์รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย Non-NII ที่ 739 ลบ. (+17% y-y, -5% q-q): การเพิ่มขึ้น y-y ขณะที่ลดลง q-q ตามรายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าขายประกัน
ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน OPEX คาดการณ์อยู่ที่ 2,200 ลบ. (+21% y-y,+4% q-q): การเพิ่มขึ้น y-y และ q-q เพราะค่าใช้จ่ายการตลาด และค่าใช้จ่าย IT โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้(C/I) ที่ 55.0% เทียบกับ 2Q22 ที่ 54.7% และ 1Q23 ที่ 53.7%
สำหรับค่าใช้จ่ายสำรอง ECL คาดว่าจะอยู่ที่ 678 ลบ. (+139% y-y, +7% q-q): เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เพราะ Gross NPL เพิ่มขึ้น +40% y-y และ +11% q-q ทำให้NPL Ratio อยู่ที่1.60% เพิ่มจาก 1Q23 ที่1.50% สำหรับ coverage ratio คงระดับสูงที่253% เทียบกับ 1Q23 ที่270%
ส่วนกำไรสุทธิคาดว่า 3Q23F เพิ่มขึ้น y-y และ q-q จากการเติบโตของรายได้รวม ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรวมและค่าธรรมเนียม-บริการ กลบการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายรวม ทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) และค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) โดยกำไรสุทธิ 2023F คาดที่ 3,527 ลบ. ลดลง -3% y-y
บริษัทจึงคง TP23F ที่ 25 บ. แต่ปรับคำแนะนำเป็น TRADING BUY เดิม NEUTRAL เพราะ
i) ราคาดหุ้น TIDLOR ปรับลงจนทำให้ราคาเป้าหมายของเราเทียบกับราคาตลาดมี upside
ii) กำไรสุทธิ 3Q-4Q23F ฟื้นตัว y-y และเริ่มเห็นคุณภาพสินทรัพย์กลับมาดีขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์หุ้น บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) โดยคาดการณ์ว่า วันที่ 10/8/2023 TIDLOR รายงานกำไรสุทธิ2Q23F ที่ 900 ลบ. ลดลง -8% y-y และ -6% q-q เพราะ
i) ค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) เพิ่มขึ้น +139% y-y และ +7% q-q จากคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ Gross NPL เพิ่มขึ้น +40% y-y และ +11%q-q ทำให้ NPL Ratio อยู่ที่1.60%เพิ่มจาก 1Q23 ที่1.50%
ii) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) เพิ่มขึ้น +21% y-y และ +4% q-q จากค่าใช้จ่ายการตลาด และค่าใช้จ่าย IT กลบการเพิ่มขึ้นของรายได้รวม +20% y-y และ +1% q-q จากสินเชื่อรวมเติบโต +22% y-y และ +4% q-q คิดเป็น +6% YTD เพราะความต้องการสินเชื่อที่มีอยู่มาก และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบางกลุ่มลดลง
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ยังคาดการณ์รายได้ดอกเบี้ย NII ที่ 3,264 ลบ. (+21% y-y, +3% q-q): เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เพราะการเติบโตของสินเชื่อรวม +22% y-y และ +4% q-q คิดเป็น +6% YTD จากความต้องการสินเชื่อที่มีอยู่มาก และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบางกลุ่มลดลง ในไตรมาสนี้ไม่มีการเปิดสาขาเพิ่ม ทำให้ 2Q23F มี จำนวนสาขาทั้งหมด 1,629 สาขา สำหรับ NIM อยู่ที่15.41% ลดลงจาก 1Q23 ที่15.45% เพราะต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น
คาดการณ์รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย Non-NII ที่ 739 ลบ. (+17% y-y, -5% q-q): การเพิ่มขึ้น y-y ขณะที่ลดลง q-q ตามรายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าขายประกัน
ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน OPEX คาดการณ์อยู่ที่ 2,200 ลบ. (+21% y-y,+4% q-q): การเพิ่มขึ้น y-y และ q-q เพราะค่าใช้จ่ายการตลาด และค่าใช้จ่าย IT โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้(C/I) ที่ 55.0% เทียบกับ 2Q22 ที่ 54.7% และ 1Q23 ที่ 53.7%
สำหรับค่าใช้จ่ายสำรอง ECL คาดว่าจะอยู่ที่ 678 ลบ. (+139% y-y, +7% q-q): เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เพราะ Gross NPL เพิ่มขึ้น +40% y-y และ +11% q-q ทำให้NPL Ratio อยู่ที่1.60% เพิ่มจาก 1Q23 ที่1.50% สำหรับ coverage ratio คงระดับสูงที่253% เทียบกับ 1Q23 ที่270%
ส่วนกำไรสุทธิคาดว่า 3Q23F เพิ่มขึ้น y-y และ q-q จากการเติบโตของรายได้รวม ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรวมและค่าธรรมเนียม-บริการ กลบการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายรวม ทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) และค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) โดยกำไรสุทธิ 2023F คาดที่ 3,527 ลบ. ลดลง -3% y-y
บริษัทจึงคง TP23F ที่ 25 บ. แต่ปรับคำแนะนำเป็น TRADING BUY เดิม NEUTRAL เพราะ
i) ราคาดหุ้น TIDLOR ปรับลงจนทำให้ราคาเป้าหมายของเราเทียบกับราคาตลาดมี upside
ii) กำไรสุทธิ 3Q-4Q23F ฟื้นตัว y-y และเริ่มเห็นคุณภาพสินทรัพย์กลับมาดีขึ้น