Talk of The Town

รายงานพิเศษ : I2 หุ้นเทคโนโลยีน้องใหม่ ชูจุดแข็งลูกค้า “ภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ”


26 กรกฎาคม 2566
บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) หุ้นน้องใหม่  สายเทคโนโลยี  เตรียมระดมทุนในตลาด mai  ชูจุดแข็ง ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ  สะท้อนรายได้ที่มั่นคง  ตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20%  
รายงานพิเศษ I2 หุ้นเทคโนโลยีน้องใหม่.jpg
บริษัทการ์ทเนอร์คาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2565 จะมีมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 2.4% จากปี 2565 โดยกลุ่มซอฟต์แวร์ (Software) และบริการไอที (IT Services) จะเติบโตสูงสุดที่ 9.3% และ 5.5% ตามลำดับ กลุ่มอุปกรณ์ไอที (Devices) คาดว่าจะเติบโตลดลงถึง 5.1%  เนื่องจากทั้งผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจขยายรอบอายุการจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ ๆ ออกไป

สำหรับยอดการใช้จ่ายด้านไอทีของประเทศไทยในปี 2566 คาดว่าจะสูงแตะ 934.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 4.2% จากปี 2565 โดยในกลุ่มซอฟต์แวร์และกลุ่มบริการด้านไอทีจะเติบโตระดับเลขสองหลัก เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ เพิ่มการใช้จ่ายกับโครงการดิจิทัล

ปัจจุบันต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีและการสื่อสารมีความสำคัญต่อทุกภาคส่วนและทุกมิติ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจและเอกชน   ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการทำธุรกิจของ “หุ้นน้องใหม่” ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai   วันที่  8 ส.ค. 2566 นี้  “บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ I2”  ประกอบธุรกิจ System Integration (SI) ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการติดตามดูแลรักษาและการให้การฝึกอบรมแก่ผู้ใช้งานและการให้บริการอื่นๆ

โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 “อธิพร  ลิ่มเจริญ” ให้ข้อมูลว่า  ประเภทธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งเป็น 2 ประเภทตามโครงสร้างรายได้ ได้แก่    
1)    การขายและบริการงานโครงการ  ได้แก่  โซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ( ICT Infrastructure) , โซลูชั่นการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation)  และโซลูชั่นด้านการจัดการและประหยัดพลังงาน 
2)    การให้บริการอินเทอร์เน็ต 
        
จุดเด่นของ บริษัท I2  ยังเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (IT) แบบครบวงจร ให้แก่องค์กรภาครัฐ  และรัฐวิสาหกิจ  จนได้รับการยอมรับจากลูกค้า  เช่น  TOT , กฟผ. และกสทช. เป็นต้น ทำให้รายได้ของบริษัทมีความมั่นคงและสม่ำเสมอ    รวมทั้งบริษัทยังมีทีมผู้บริหารและพนักงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาอย่างยาวนานในธุรกิจระดับประเทศ  และบริษัทยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกับผู้ผลิตอุปกรณ์ และพัฒนาซอฟท์แวร์ชั้นนำ

ซึ่งหุ้นที่บริษัทเสนอขาย IPO มีจำนวน 120 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 28.57%   ในกลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยี  ราคาไอพีโอที่ 2.70 บาท/หุ้น  โดยมีบริษัท บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด  เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)

ส่วนวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ เตรียมนำเงินไปลงทุนในงานบริการโครงการขนาดใหญ่แก่ลูกค้า, นำไปใช้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้าง New S Curve รองรับแผนการเติบโตในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์mai  จะเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตและทำให้บริษัทได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ  โดยเงินที่ระดมทุนได้บริษัทจะนำมาสร้างความเติบโตและความแข็งแกร่ง  เนื่องจากทีมผู้บริหารมีความตั้งใจที่จะทำให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10-20 %” นายอธิพร ย้ำ
I2