Wealth Sharing
IMH จ่อบุ๊ครายได้ “รพ. IMH สีลม - รพ. IMH ธนบุรี” ครึ่งปีหลังแตะ 500 ลบ.
27 กรกฎาคม 2566
โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (“IMH”) ส่งซิกข่าวดี จ่อรับทรัพย์เข้ากระเป๋าครึ่งปีหลังจาก รพ. IMH สีลม และ รพ. IMH ธนบุรี” กว่า 400 ล้านบาท และรายได้ของ “รพ.อินเตอร์เมดฯ” ซึ่งเป็นบริษัทแม่ อีก 100 ล้านบาท พร้อมประกาศสู่การเป็น “IMH Medical Hub” ในอนาคต เตรียมเดินเกมรุกต่อยอดการลงทุนซื้อกิจการ รพ.แห่งใหม่เพิ่ม ส่อแววปิดดีลต้นปี2567 นี้ ขณะที่ รพ. IMH แบริ่ง (เฟส 1) บนพื้นที่ทำเลทองติด BTS แบริ่ง คาดว่าเปิดให้บริการปี 2568 ยืนยันหากทุกอย่างแล้วเสร็จ ส่งผลให้กลุ่ม IMH เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต
ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) “IMH” เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กลุ่ม IMH เดินเกมรุกทางธุรกิจสู่การต่อยอดโอกาส การลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มรพ.อย่างต่อเนื่อง โดยการเข้าซื้อกิจการ “โรงพยาบาล IMH สีลม” และ “โรงพยาบาล IMH ธนบุรี” ในช่วงที่ผ่านมา สำหรับรองรับแผนการขยายกิจการโรงพยาบาลของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อก้าวสู่การเป็น“IMH Medical Hub” ในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์สำหรับโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง โดยตั้งเป้าให้ "รพ. IMH สีลม" เป็นผู้นำในการให้บริการคนไข้ต่างชาติ และ กลุ่ม Corporate ย่านสีลม ขณะที่ " รพ.IMH ธนบุรี " จะครบคลุมกลุ่มคนไข้พื้นฝั่งธนบุรี โดยมุ่งเน้นให้บริการกลุ่มผู้ป่วยสิทธิ์รัฐ พร้อมทั้งตั้งเป้าเป็นผู้นำในการให้บริการคนไข้สิทธิ์รัฐ อาทิ สปสช. (บัตรทอง), ประกันสังคม และคนไข้เงินสด นอกจากนี้ ยังรับผิดชอบในการขยายเครือข่ายคลินิกภายใต้ “คลินิกเวชกรรม IMH” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการคนไข้ปฐมภูมิ และคนไข้เงินสดในพื้นที่ฝั่งธนบุรี รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมขยายธุรกิจ และขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อก้าวสู่การเป็นเป็นผู้นำในกลุ่มโรงพยาบาลที่ให้บริการคนไข้สิทธิ์รัฐมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้ภายในครึ่งปีหลัง ( ไตรมาส3-4 )ของปี 2566 กลุ่ม IMH จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการบริหาร รพ.ทั้ง 2 แห่งไม่ต่ำว่ากว่า 400 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนรายได้ของ “รพ.อินเตอร์เมดฯ” ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านอาชีวะเวชศาสตร์ โดยเน้นด้านหน่วยแพทย์เคลื่อนที่, Telemed และ Central Lab สามารถให้บริการลูกค้าบริษัท / โรงงาน ได้ทั่วประเทศทั้งภาคเหนือ จรดภาคใต้ ผ่านรถหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่มีรองรับการให้บริการกว่า 14 คัน จะมีการรับรู้เข้ามาในครึ่งปีหลังกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้นจะส่งผลให้บริษัทฯ คาดการณ์รายได้รวมในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มแตะระดับ 500 ล้านบาท ทำให้ปีนี้ กลุ่ม IMH จะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมกว่า 800 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ ดร.สิทธิวัตน์ ยังได้กล่าวตอกย้ำว่า ภายหลังความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ รพ.ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงทางธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯ มีแผนจะเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลเพิ่ม อีก 1 แห่ง โดยคาดว่าดีลดังกล่าวจะแล้วเสร็จต้นปี 2567 ซึ่งหากเป็นไปตามแผนจะทำทั้งกลุ่ม IMH จะมีโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 4 แห่งในมือ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนในการบริหารจัดการโรงพยาบาล และสร้าง Synergy ในเครือฯ ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของกลุ่ม IMH ในอนาคต
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้าง รพ. IMH แบริ่ง (เฟส 1) จำนวน 300 เตียง บนพื้นที่ทำเลทองติด BTS แบริ่งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการออกแบบ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ ในปี 2568 เพื่อรองรับการให้บริการในกลุ่มลูกค้าคนไทยสิทธิชำระเงินสดระดับกลาง-บน และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพใต้ – สมุทรปราการ ทั้งนี้หากโรงพยาบาลดังกล่าวแล้วเสร็จ จะส่งผลให้กลุ่ม IMH มีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่นยืนในอนาคต
ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) “IMH” เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กลุ่ม IMH เดินเกมรุกทางธุรกิจสู่การต่อยอดโอกาส การลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มรพ.อย่างต่อเนื่อง โดยการเข้าซื้อกิจการ “โรงพยาบาล IMH สีลม” และ “โรงพยาบาล IMH ธนบุรี” ในช่วงที่ผ่านมา สำหรับรองรับแผนการขยายกิจการโรงพยาบาลของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อก้าวสู่การเป็น“IMH Medical Hub” ในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์สำหรับโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง โดยตั้งเป้าให้ "รพ. IMH สีลม" เป็นผู้นำในการให้บริการคนไข้ต่างชาติ และ กลุ่ม Corporate ย่านสีลม ขณะที่ " รพ.IMH ธนบุรี " จะครบคลุมกลุ่มคนไข้พื้นฝั่งธนบุรี โดยมุ่งเน้นให้บริการกลุ่มผู้ป่วยสิทธิ์รัฐ พร้อมทั้งตั้งเป้าเป็นผู้นำในการให้บริการคนไข้สิทธิ์รัฐ อาทิ สปสช. (บัตรทอง), ประกันสังคม และคนไข้เงินสด นอกจากนี้ ยังรับผิดชอบในการขยายเครือข่ายคลินิกภายใต้ “คลินิกเวชกรรม IMH” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการคนไข้ปฐมภูมิ และคนไข้เงินสดในพื้นที่ฝั่งธนบุรี รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมขยายธุรกิจ และขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อก้าวสู่การเป็นเป็นผู้นำในกลุ่มโรงพยาบาลที่ให้บริการคนไข้สิทธิ์รัฐมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้ภายในครึ่งปีหลัง ( ไตรมาส3-4 )ของปี 2566 กลุ่ม IMH จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการบริหาร รพ.ทั้ง 2 แห่งไม่ต่ำว่ากว่า 400 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนรายได้ของ “รพ.อินเตอร์เมดฯ” ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านอาชีวะเวชศาสตร์ โดยเน้นด้านหน่วยแพทย์เคลื่อนที่, Telemed และ Central Lab สามารถให้บริการลูกค้าบริษัท / โรงงาน ได้ทั่วประเทศทั้งภาคเหนือ จรดภาคใต้ ผ่านรถหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ที่มีรองรับการให้บริการกว่า 14 คัน จะมีการรับรู้เข้ามาในครึ่งปีหลังกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้นจะส่งผลให้บริษัทฯ คาดการณ์รายได้รวมในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มแตะระดับ 500 ล้านบาท ทำให้ปีนี้ กลุ่ม IMH จะมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมกว่า 800 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ ดร.สิทธิวัตน์ ยังได้กล่าวตอกย้ำว่า ภายหลังความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ รพ.ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงทางธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯ มีแผนจะเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลเพิ่ม อีก 1 แห่ง โดยคาดว่าดีลดังกล่าวจะแล้วเสร็จต้นปี 2567 ซึ่งหากเป็นไปตามแผนจะทำทั้งกลุ่ม IMH จะมีโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 4 แห่งในมือ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนในการบริหารจัดการโรงพยาบาล และสร้าง Synergy ในเครือฯ ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของกลุ่ม IMH ในอนาคต
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้าง รพ. IMH แบริ่ง (เฟส 1) จำนวน 300 เตียง บนพื้นที่ทำเลทองติด BTS แบริ่งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการออกแบบ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ ในปี 2568 เพื่อรองรับการให้บริการในกลุ่มลูกค้าคนไทยสิทธิชำระเงินสดระดับกลาง-บน และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพใต้ – สมุทรปราการ ทั้งนี้หากโรงพยาบาลดังกล่าวแล้วเสร็จ จะส่งผลให้กลุ่ม IMH มีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่นยืนในอนาคต