"ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง" มั่นใจปีนี้รายได้ 6.5 พันล้านบาทเข้าเป้าไม่ยาก แย้มทิศทางผลประกอบการยังน่าพอใจ และมีโอกาสที่จะทะลุเป้าระยะยาว 8 พันล้านบาทได้เร็วกว่าเดิม พร้อมแย้มจ่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผสมสารสกัดใบกระท่อมเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่เพิ่มเติม
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยไตรมาสแรกที่ผ่านทำกำไรได้รวมที่ 1,427.38 ล้านบาท กำไรสุทธิ 154.01 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 ที่อยู่ระหว่างรอประกาศอย่างเป็นทางการเชื่อว่าจะสามารถสนับสนุนให้ภาพรวมทั้งปี 2566 ยังคงเติบโตสู่เป้าหมายรายได้ 6,500 ล้านบาทได้ จากปี 2565 มีรายได้รวม 5,603.98 ล้านบาท
ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากสัดส่วนยอดขายต่างประเทศที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะที่ประเทศเวียดนามซึ่งกำลังการผลิตมีมากขึ้น ขณะที่ในประเทศก็จะทยอยออกสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายเพิ่มเติมจากปกติช่วงปลายปีจะเป็นไฮซีซั่นอยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายไลน์สินค้าใหม่เพิ่มเติมที่สำคัญได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผสมสารสกัดใบกระท่อม (ชนิดน้ำ) กลิ่นมะนาว ได้การรับรองผ่านสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ภายใต้แบรนด์ “เมจิก ฟาร์ม เฟรช” เพื่อขยายฐานในกลุ่มเสริมสร้างพลังงาน (เอ็นเนอร์จี้ ดริงก์) เป็นการนำสารสกัดจากใบกระท่อมมาผสมในผลิตภัณฑ์เป็นรายแรกของประเทศไทย จึงเป็นโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับบริษัทฯ ในอนาคต คาดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 และยังจะทยอยออกสินค้าอื่นๆ เช่น อาหารเสริมเจเล่และสินค้าเจเล่รูปแบบใหม่ในช่วงปลายปี
"เป้าหมายรายได้ที่วางไว้เราน่าจะทำได้ ซึ่งสินค้าใหม่ที่จะออกมาโดยเฉพาะเอ็นเนอร์จี้ ดริงก์ น่าจะช่วยเร่งผลงานเราในไตรมาสสุดท้ายให้ยิ่งดีขึ้นได้อีก เป็นการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ผมมองภาพระยะยาวเรามีโอกาสถึงเป้าหมายเติบโตเร็วกว่าแผนที่อีก 3 ปี (2569) ตั้งเป้าไว้ที่ 8 พันล้านบาทได้" นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล กล่าว
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยไตรมาสแรกที่ผ่านทำกำไรได้รวมที่ 1,427.38 ล้านบาท กำไรสุทธิ 154.01 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 ที่อยู่ระหว่างรอประกาศอย่างเป็นทางการเชื่อว่าจะสามารถสนับสนุนให้ภาพรวมทั้งปี 2566 ยังคงเติบโตสู่เป้าหมายรายได้ 6,500 ล้านบาทได้ จากปี 2565 มีรายได้รวม 5,603.98 ล้านบาท
ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากสัดส่วนยอดขายต่างประเทศที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะที่ประเทศเวียดนามซึ่งกำลังการผลิตมีมากขึ้น ขณะที่ในประเทศก็จะทยอยออกสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายเพิ่มเติมจากปกติช่วงปลายปีจะเป็นไฮซีซั่นอยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายไลน์สินค้าใหม่เพิ่มเติมที่สำคัญได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผสมสารสกัดใบกระท่อม (ชนิดน้ำ) กลิ่นมะนาว ได้การรับรองผ่านสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ภายใต้แบรนด์ “เมจิก ฟาร์ม เฟรช” เพื่อขยายฐานในกลุ่มเสริมสร้างพลังงาน (เอ็นเนอร์จี้ ดริงก์) เป็นการนำสารสกัดจากใบกระท่อมมาผสมในผลิตภัณฑ์เป็นรายแรกของประเทศไทย จึงเป็นโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับบริษัทฯ ในอนาคต คาดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 และยังจะทยอยออกสินค้าอื่นๆ เช่น อาหารเสริมเจเล่และสินค้าเจเล่รูปแบบใหม่ในช่วงปลายปี
"เป้าหมายรายได้ที่วางไว้เราน่าจะทำได้ ซึ่งสินค้าใหม่ที่จะออกมาโดยเฉพาะเอ็นเนอร์จี้ ดริงก์ น่าจะช่วยเร่งผลงานเราในไตรมาสสุดท้ายให้ยิ่งดีขึ้นได้อีก เป็นการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ผมมองภาพระยะยาวเรามีโอกาสถึงเป้าหมายเติบโตเร็วกว่าแผนที่อีก 3 ปี (2569) ตั้งเป้าไว้ที่ 8 พันล้านบาทได้" นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล กล่าว