กระดานข่าว
AWC เซ็นสัญญาลงทุน"พลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก"มูลค่าเข้าซื้อกิจการ 7.78 พันลบ.โดยเลือกจ่าย 18% ก่อน
27 กรกฎาคม 2566
"แอสเสท เวิรด์ คอร์ป" เข้าเซ็นสัญญาซื้อหุ้นกิจการโรงแรมพลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก (Hotel Plaza Athenee New York) หลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (E-EGM) เพิ่มคุณค่าแบรนด์ สู่กลุ่มลูกค้าอัลตร้า ลักชูรี่ ทั้งในและต่างประเทศ โดยการเข้าซื้อร้อยละ 18 และมีสิทธิในการเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือร้อยละ 82 ภายใน 10 ปี (Call Option) ได้สิทธิการเป็นเจ้าของแบรนด์ พลาซ่า แอทธินี ในสหรัฐอเมริกาและไทย สามารถนำแบรนด์ พลาซ่า แอทธินีไปใช้กับโครงการอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มในระยะยาว
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า "AWC ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นใน AWC และอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นกิจการ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก ซึ่งเป็นทรัพย์สิน Freehold ระดับชั้นนำของโลกที่ทรงคุณค่า ตั้งอยู่ใจกลางเกาะแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก พร้อมสิทธิเจ้าของแบรนด์คุณภาพชั้นนำระดับโลกอย่าง “พลาซ่า แอทธินี” ผ่านความเชื่อมโยงของสองโครงการระดับแฟลกชิปในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย รวมถึงการมีพันธมิตรชั้นนำระดับโลกอย่าง Nobu Hospitality ร่วมพัฒนาโรงแรมระดับไอคอนิก ทั้งโรงแรม พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา นิวยอร์ก (Plaza Athenee Nobu Hotel and Spa New York) และโรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก (The Plaza Athenee Nobu Hotel and Spa Bangkok) จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าระดับอัลตร้า ลักชูรี่ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ของ AWC เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ โดยการลงทุนในครั้งนี้จะส่งเสริมการเติบโตและสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับ AWC อีกทั้งด้วยความเชี่ยวชาญของ AWC ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นสร้างคุณค่าเพิ่ม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร รวมถึงประสบการณ์ที่ได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำระดับโลกมากมาย ผสานกับจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของแบรนด์โนบุ ที่จะมาร่วมพัฒนาโครงการระดับไอคอนิกทั้งสองแห่งนี้ AWC เชื่อมั่นว่าการลงทุนครั้งนี้ จะช่วยสร้างมิติใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยว พร้อมสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับอัลตร้า ลักชูรี่”
AWC เดินหน้าการลงทุนในธุรกิจโรงแรม พลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก มูลค่ารวม 7,789 ล้านบาท ที่รวมกรรมสิทธิ Freehold ในโรงแรม พลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก และอาคารทาวน์เฮาส์ และได้สิทธิเจ้าของแบรนด์พลาซ่า แอทธินี ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย โดยไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ AWC จะทำการเข้าซื้อหุ้นในกิจการโรงแรม พลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก จำนวนร้อยละ 18 ในมูลค่า 1,402 ล้านบาทก่อน และจะมีสิทธิในการเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ (Call Option) อีกจำนวนร้อยละ 82 ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นการลงทุนที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ AWC เสมือนรูปแบบ AWC Growth Fund อีกทั้งยังไม่เกิดภาระต่องบดุลของทางบริษัทระหว่างการพัฒนา และสามารถจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนพัฒนาภายใต้สัดส่วนการลงทุนของบริษัท ควบคู่กับการรับกำไรจากการพัฒนาเต็มจำนวน และยังสามารถได้รับผลดีจากการเติบโตของมูลค่าแบรนด์พลาซ่า แอทธินี ที่เพิ่มขึ้นภายหลังการเปิดดำเนินงาน และสร้างรายได้เพิ่มกับโครงการอื่นๆ ในระยะยาว
“การลงทุนครั้งนี้ของ AWC เป็นการสร้างคุณค่าร่วม (Synergy Value) ด้วยการเสริมโมเดลพอร์ตโฟลิโอของ AWC ผ่านการพัฒนาสองโรงแรมระดับไอคอนิก ได้แก่ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา นิวยอร์ก และ โรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น (Reception) และศูนย์กลางเชื่อมต่อหลากหลายโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ AWC ภายใต้แนวคิด River Journey Project สร้างประสบการณ์ระดับอัลตร้า ลักชูรี่ และจะเป็นมิติใหม่ของอุตสาหกรรมผ่านทรัพย์สินอันทรงคุณค่าทั้งสองแห่ง ในสองมหานครระดับโลก กรุงเทพฯ และนิวยอร์ก” นางวัลลภา กล่าวเสริม
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า "AWC ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นใน AWC และอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นกิจการ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก ซึ่งเป็นทรัพย์สิน Freehold ระดับชั้นนำของโลกที่ทรงคุณค่า ตั้งอยู่ใจกลางเกาะแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก พร้อมสิทธิเจ้าของแบรนด์คุณภาพชั้นนำระดับโลกอย่าง “พลาซ่า แอทธินี” ผ่านความเชื่อมโยงของสองโครงการระดับแฟลกชิปในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย รวมถึงการมีพันธมิตรชั้นนำระดับโลกอย่าง Nobu Hospitality ร่วมพัฒนาโรงแรมระดับไอคอนิก ทั้งโรงแรม พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา นิวยอร์ก (Plaza Athenee Nobu Hotel and Spa New York) และโรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก (The Plaza Athenee Nobu Hotel and Spa Bangkok) จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าระดับอัลตร้า ลักชูรี่ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ของ AWC เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ โดยการลงทุนในครั้งนี้จะส่งเสริมการเติบโตและสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับ AWC อีกทั้งด้วยความเชี่ยวชาญของ AWC ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นสร้างคุณค่าเพิ่ม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร รวมถึงประสบการณ์ที่ได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำระดับโลกมากมาย ผสานกับจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของแบรนด์โนบุ ที่จะมาร่วมพัฒนาโครงการระดับไอคอนิกทั้งสองแห่งนี้ AWC เชื่อมั่นว่าการลงทุนครั้งนี้ จะช่วยสร้างมิติใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยว พร้อมสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับอัลตร้า ลักชูรี่”
AWC เดินหน้าการลงทุนในธุรกิจโรงแรม พลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก มูลค่ารวม 7,789 ล้านบาท ที่รวมกรรมสิทธิ Freehold ในโรงแรม พลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก และอาคารทาวน์เฮาส์ และได้สิทธิเจ้าของแบรนด์พลาซ่า แอทธินี ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย โดยไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ AWC จะทำการเข้าซื้อหุ้นในกิจการโรงแรม พลาซ่า แอทธินี นิวยอร์ก จำนวนร้อยละ 18 ในมูลค่า 1,402 ล้านบาทก่อน และจะมีสิทธิในการเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ (Call Option) อีกจำนวนร้อยละ 82 ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นการลงทุนที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ AWC เสมือนรูปแบบ AWC Growth Fund อีกทั้งยังไม่เกิดภาระต่องบดุลของทางบริษัทระหว่างการพัฒนา และสามารถจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนพัฒนาภายใต้สัดส่วนการลงทุนของบริษัท ควบคู่กับการรับกำไรจากการพัฒนาเต็มจำนวน และยังสามารถได้รับผลดีจากการเติบโตของมูลค่าแบรนด์พลาซ่า แอทธินี ที่เพิ่มขึ้นภายหลังการเปิดดำเนินงาน และสร้างรายได้เพิ่มกับโครงการอื่นๆ ในระยะยาว
“การลงทุนครั้งนี้ของ AWC เป็นการสร้างคุณค่าร่วม (Synergy Value) ด้วยการเสริมโมเดลพอร์ตโฟลิโอของ AWC ผ่านการพัฒนาสองโรงแรมระดับไอคอนิก ได้แก่ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา นิวยอร์ก และ โรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น (Reception) และศูนย์กลางเชื่อมต่อหลากหลายโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ AWC ภายใต้แนวคิด River Journey Project สร้างประสบการณ์ระดับอัลตร้า ลักชูรี่ และจะเป็นมิติใหม่ของอุตสาหกรรมผ่านทรัพย์สินอันทรงคุณค่าทั้งสองแห่ง ในสองมหานครระดับโลก กรุงเทพฯ และนิวยอร์ก” นางวัลลภา กล่าวเสริม