จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : MFEC ส่งบริษัทลูก SGV ซื้อบิ๊กล็อตหุ้น I2 รักษาสัดส่วน 15% ตอกย้ำ Strategic Partner
02 สิงหาคม 2566
บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) ส่งบริษัทลูก บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV) ซื้อบิ๊กล็อต วันแรกที่หุ้น บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) เข้าเทรด หวังรักษาสัดส่วนถือหุ้น 15% ตอกย้ำเป็น Strategic Partner มั่นใจ I2 เติบโตโดดเด่น
วันที่ 8 ส.ค. 2566 นี้ หุ้นน้องใหม่ บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) จะเข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยจำนวนหุ้นที่เสนอขายอยู่ที่ 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.70 บาท
การเสนอขายหุ้นสามัญของ I2 ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่มนางอัญชลี แก้วบรรพต สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงเหลือ 42.50% จากเดิมที่ถือ 59.50% ,นายไพฑูรย์ ประมวลชัยกุล สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 9.71% จากเดิมที่ถือ 13.60% ,นายยุทธชัย ทูลพันธ์ ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 8.50% จากเดิมที่ถือ 11.90% และกลุ่มบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด(มหาชน) (MFEC) ปรับลดสัดส่วนเหลือ 10.71% จากเดิมที่เคยถือ 15.00%
ซึ่งธุรกิจของ บริษัท MFEC ทำเกี่ยวกับการพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร ภายใต้กลุ่มธุรกิจหลัก 3 กลุ่มธุรกิจ โดยมุ่งออกแบบการให้บริการในเชิงลึก เพื่อตอบสนองความต้องการจำเพาะในการใช้งานของลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ประกอบไปด้วย 1. Enterprise Solution 2. Hybrid Infrastructure Services 3. Transformation
ขณะที่ I2 ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำ ปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
จึงเป็นกลุ่มที่สนับสนุนการเติบโตของกันและกัน ดังนั้นกลุ่มของ MFEC จึงต้องการคงสัดส่วนการถือหุ้นใน I2 ที่ระดับ15% ในฐานะStrategic Partner เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกันในอนาคต
ซึ่ง“อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานกรรมการบริหาร I2 ระบุว่า ในวันแรกของการเข้าเทรด กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ จะขายหุ้นที่ถืออยู่จำนวน 18 ล้านหุ้น หรือ 4.29% บนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (Big lot) ในราคาไอพีโอ ให้แก่บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท MFEC เพื่อให้กลุ่มของMFEC คงสัดส่วนการถือหุ้นในI2 ที่ระดับ15 %
การขายบิ๊กล็อต 4.29%ให้แก่กลุ่มMFECในวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาด maiได้เปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่งที่นำเสนอต่อสำนักงานก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ให้ทราบอยู่แล้ว และต้องการให้นักลงทุนรับรู้ข้อมูลโดยทั่วกัน
โดยการทำธุรกรรมดังกล่าวจะส่งผลเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจและแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต และการได้จับมือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับMFEC สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพการทำธุรกิจและการเติบโตในอนาคตที่จะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และนโยบายบริหารจัดการของบริษัทฯ
ขณะเดียวกัน บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV)เป็นบริษัทย่อยที่MFECถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ100มีทุนจดทะเบียน 500,000,000 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน5,000,000หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ100บาท โดยSGV จะลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจหลักของกลุ่มMFEC
วันที่ 8 ส.ค. 2566 นี้ หุ้นน้องใหม่ บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) จะเข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยจำนวนหุ้นที่เสนอขายอยู่ที่ 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.70 บาท
การเสนอขายหุ้นสามัญของ I2 ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่มนางอัญชลี แก้วบรรพต สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงเหลือ 42.50% จากเดิมที่ถือ 59.50% ,นายไพฑูรย์ ประมวลชัยกุล สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 9.71% จากเดิมที่ถือ 13.60% ,นายยุทธชัย ทูลพันธ์ ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 8.50% จากเดิมที่ถือ 11.90% และกลุ่มบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด(มหาชน) (MFEC) ปรับลดสัดส่วนเหลือ 10.71% จากเดิมที่เคยถือ 15.00%
ซึ่งธุรกิจของ บริษัท MFEC ทำเกี่ยวกับการพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร ภายใต้กลุ่มธุรกิจหลัก 3 กลุ่มธุรกิจ โดยมุ่งออกแบบการให้บริการในเชิงลึก เพื่อตอบสนองความต้องการจำเพาะในการใช้งานของลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ประกอบไปด้วย 1. Enterprise Solution 2. Hybrid Infrastructure Services 3. Transformation
ขณะที่ I2 ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำ ปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
จึงเป็นกลุ่มที่สนับสนุนการเติบโตของกันและกัน ดังนั้นกลุ่มของ MFEC จึงต้องการคงสัดส่วนการถือหุ้นใน I2 ที่ระดับ15% ในฐานะStrategic Partner เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกันในอนาคต
ซึ่ง“อธิพร ลิ่มเจริญ” ประธานกรรมการบริหาร I2 ระบุว่า ในวันแรกของการเข้าเทรด กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ จะขายหุ้นที่ถืออยู่จำนวน 18 ล้านหุ้น หรือ 4.29% บนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (Big lot) ในราคาไอพีโอ ให้แก่บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท MFEC เพื่อให้กลุ่มของMFEC คงสัดส่วนการถือหุ้นในI2 ที่ระดับ15 %
การขายบิ๊กล็อต 4.29%ให้แก่กลุ่มMFECในวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาด maiได้เปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่งที่นำเสนอต่อสำนักงานก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ให้ทราบอยู่แล้ว และต้องการให้นักลงทุนรับรู้ข้อมูลโดยทั่วกัน
โดยการทำธุรกรรมดังกล่าวจะส่งผลเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจและแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต และการได้จับมือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับMFEC สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพการทำธุรกิจและการเติบโตในอนาคตที่จะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และนโยบายบริหารจัดการของบริษัทฯ
ขณะเดียวกัน บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV)เป็นบริษัทย่อยที่MFECถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ100มีทุนจดทะเบียน 500,000,000 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน5,000,000หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ100บาท โดยSGV จะลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจหลักของกลุ่มMFEC