Wealth Sharing

KBANK ตั้ง “กสิกร อินเวสเจอร์”รุกรายย่อย ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้ 4.5 หมื่นลบ.


02 สิงหาคม 2566
KBANK แยก “บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KIV)” พร้อมตั้ง 'พัชร สมะลาภา' ดำรงตำแหน่ง Group Chairman  ลุยธุรกิจให้บริการการเงินกับลูกค้ารายย่อย ลดต้นทุนธุรกิจ เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจ คาดปีนี้ปล่อยสินเชื่อ 4.5 หมื่นล้านบาท  กำไร 1.1 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี2569  กำไรแตะ 5 พันล้านบาท 

KBANK ตั้ง.jpg

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตธุรกิจในระยะยาว ประกาศแยก บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด หรือ เคไอวี (KASIKORN INVESTURE: KIV) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย  เพื่อรุกธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธนาคารและพันธมิตร เพื่อสร้างรายได้บนความเสี่ยงที่คุ้มค่า ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม

"ธนาคารได้ปรับรูปแบบการบริหารจัดการของเคไอวี โดยมีคุณพัชร สมะลาภา เข้าดำรงตำแหน่ง Group Chairman ของ เคไอวี และแยกเคไอวีออกมา เพื่อทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ภายใต้การใช้ศักยภาพที่มีอยู่ของธนาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารมั่นใจว่า การปรับครั้งนี้จะเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการให้บริการการเงินกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย และสร้างรายได้ใหม่ให้กับธนาคาร ทำให้ธนาคารมีกำไรทางธุรกิจที่สูงกว่าธนาคารบริหารจัดการเอง รวมทั้งทำให้ธนาคารมีการเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งถือว่า KIV จะเป็นอีกเรือธงเพื่อผลักดัน KBANK" นางสาวขัตติยากล่าว
 
ด้านนายพัชร สมะลาภา Group Chairman ของ บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายของ เคไอวี คือ เพิ่มความสามารถในการให้บริการการเงินกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย เช่น พ่อค้าแม่ค้า หรือกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารได้  ซึ่งมีโจทย์สำคัญคือ ต้องลดต้นทุนการดำเนินงาน (Operating Cost) และลดต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) เพื่อให้ยังคงความสามารถในการสร้างกำไรของธุรกิจ การดำเนินงานของเคไอวีอาศัยความเชี่ยวชาญของพันธมิตรในแต่ละด้าน รวมกับการใช้โครงสร้างและทรัพยากรของธนาคารกสิกรไทยที่มีอยู่แล้ว เช่น จำนวนลูกค้ากว่า 20 ล้านราย K PLUS เงินทุน ข้อมูล ไอที และสาขา เป็นต้น ซึ่งทำให้เคไอวีมีความเข้าใจลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถให้บริการการเงินที่ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อย เจ้าของร้านค้ารายเล็ก กลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการเงินทุนเสริมสภาพคล่อง ให้สามารถใช้บริการการเงินในระบบได้มากขึ้น

โดยภาพรวมเคไอวี มีมูลค่าการลงทุนรวมในปี 66 อยู่ที่ 25,000-30,000 ล้านบาท และในปี 69 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 65,000 - 70,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะใช้แนวทางสร้างมูลค่าเดิมที่มีอยู่โดยไม่ได้ลงทุนเพิ่ม

และธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้ที่ 40,000 - 45,000 ล้านบาท และปี 69 เพิ่มขึ้นแตะที่  75,000 - 80,000 ล้านบาท  ส่วนคาดกำไรปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 900 - 1,100 ล้านบาท และปี 69 คาดกำไรอยู่ที่  4,500 - 5,000 ล้านบาท ซึ่ง บริษัทที่อยู่ในโครงสร้างของเคไอวี ประกอบด้วย 14 บริษัท มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท