บล.ฟิลลิป มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 ส.ค.) คาดเปิดกระโดดและลุ้นเดินหน้าต่อ การเมืองไทยกลับมาเป็นปัจจัยผลักดัน SET Index หลังวานนี้พรรคเพื่อไทยได้ แถลงข่าวร่วมกับพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงตั้งต้น 212 เสียง และเตรียมหารือกับพรรคร่วมอื่นๆ ภายในสัปดาห์นี้ เป็นสัญญาณของการเมืองไทยที่เดินหน้าต่ออีกครั้ง และช่วยลดภาพความไม่แน่นอนของการเมืองไทย คาดจะเป็นแรงหนุนต่อ SET Index รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง
อีกทั้งคาดการเคลื่อนไหวของ SET Index ในวันนี้จะมีแรงหนุนในเชิง Sentiment จากตลาดฝั่งสหรัฐฯ ที่ปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดทุน
อย่างไรก็ดี ทางขึ้นของ SET Index คาดถูกจํากัดจากการชะลอการลงทุนของนักลงทุนที่ยังรอให้การเมืองมีความชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ กอปรกับนักลงทุนยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งนอกรัฐสภา
อีกทั้งคาดว่า SET Index ถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลง 1.06% สู่ระดับ $81.94 ต่อบาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี วันนี้ติดตามมุมมองอุปสงค์น้ำมันจาก EIA
นอกจากนี้ ติดตามการรายงานตัวเลขการค้าเดือนก.ค.ของจีน ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงภาพกิจกรรมทางศก.และการบริโภคของจีน โดยตลาดคาด 1) การส่งออกหดตัว 13.2% y-y ปรับตัวแย่ลงจากการหดตัว 12.4% y-y ในเดือนมิ.ย. และ 2) การนำเข้าหดตัว 5.6% y-y ปรับตัวดีขึ้นจากการหดตัว 6.8% y-y ในเดือนมิ.ย.
อีกทั้งคาดการเคลื่อนไหวของ SET Index ในวันนี้จะมีแรงหนุนในเชิง Sentiment จากตลาดฝั่งสหรัฐฯ ที่ปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดทุน
อย่างไรก็ดี ทางขึ้นของ SET Index คาดถูกจํากัดจากการชะลอการลงทุนของนักลงทุนที่ยังรอให้การเมืองมีความชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ กอปรกับนักลงทุนยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งนอกรัฐสภา
อีกทั้งคาดว่า SET Index ถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลง 1.06% สู่ระดับ $81.94 ต่อบาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี วันนี้ติดตามมุมมองอุปสงค์น้ำมันจาก EIA
นอกจากนี้ ติดตามการรายงานตัวเลขการค้าเดือนก.ค.ของจีน ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงภาพกิจกรรมทางศก.และการบริโภคของจีน โดยตลาดคาด 1) การส่งออกหดตัว 13.2% y-y ปรับตัวแย่ลงจากการหดตัว 12.4% y-y ในเดือนมิ.ย. และ 2) การนำเข้าหดตัว 5.6% y-y ปรับตัวดีขึ้นจากการหดตัว 6.8% y-y ในเดือนมิ.ย.