จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ดิจิทัล Q2/66 ฟื้น หนุนผลงาน INET แข็งแกร่ง
09 สิงหาคม 2566
ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 หนุนผลงาน บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) เติบโตแข็งแกร่ง ขณะที่บล.หยวนต้า คงคำแนะนำ “ซื้อ”
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ระบุ ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industry Sentiment Index) ไตรมาส 2 ประจำปี 2566 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Device) กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล (Digital Service) กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication)
โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 54.1 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 54.0 ของไตรมาสแรกและยังคงอยู่ในระดับเชื่อมั่นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง โดยปัจจัยด้านปริมาณการผลิตฯ ด้านการจ้างงาน และด้านต้นทุนประกอบการปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยด้านผลประกอบการ ด้านคำสั่งซื้อฯ และด้านการลงทุนเพื่อประกอบการปรับตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลประกอบด้วยภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกันนี้ นโยบายการเปิดประเทศของจีนยังส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของกิจการในประเทศลดลง โดยเฉพาะราคาชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในทางกลับกัน ปัจจัยฉุดรั้งคือ ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งผู้ประกอบการมีความกังวลอยู่ไม่น้อย โดยผู้ประกอบการและคู่ค้าหลายรายชะลอแผนธุรกิจเพื่อรอดูท่าทีการประกาศนโยบายของรัฐบาลใหม่
หากแยกตามรายอุตสาหกรรมจะพบว่า เกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50 ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อยู่ที่ระดับ 54.6 กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อยู่ที่ระดับ 56.9 กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 52.1 และ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อยู่ที่ระดับ 52.4 ขณะที่ กลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม กลับมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่ำกว่าระดับ 50 โดยอยู่ที่ 46.8 ในไตรมาสนี้
ความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมดิจิทัลที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร ซึ่ง นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 ยังเติบโตดี จากความต้องการ Digital Transformation ในองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับ INET คือ Platform Service Provider ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ ในการพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึง มีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Infrastructure) ที่แข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน INET อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำบริษัทร่วมทุน 3 บริษัทเข้าระดมทุนในตลาดทุน ประกอบด้วย บมจ.วัน อิเล็กทรอนิกส์ บิลลิ่ง มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านเอกสารภาษีและเอกสารการค้า และ บมจ.อินเทลลิจิสต์ เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้าน Big Data และ Data Analytics เข้าระดมทุนในตลาด LiVE Exchange ภายในไตรมาส 1/67 และบริษัท ไอเน็กซ์ บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสื่อสารบรอดแบนด์แบบครบวงจร (Broadband Service) เข้าระดมทุนในตลาด mai ภายในปี 68
บล.หยวนต้า วิเคราะห์หุ้น INET โดยคาดกำไรสุทธิ 2Q66 ที่ 34 ล้านบาท (+8.8% QoQ, +34.8% YoY) กำไรที่เติบโต QoQ มาจากรายได้ที่เติบโตและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น กำไรที่เติบโตเด่น YoY มาจากฐานต่ำ ซึ่งกำไรปกติ 1H66 คิดเป็น 41% ของประมาณการทั้งปี 2566 ของเรา
ทั้งนี้บริษัทยังคงประมาณการและราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 6.00 บาทต่อหุ้น อิง EV/EBITA ที่ 8.6x ในเชิงพื้นฐาน โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย บน PER66 เพียง 14x และ P/BV เพียง 0.9x ไม่แพง ทำให้หุ้นมี Downside จำกัด
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ระบุ ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industry Sentiment Index) ไตรมาส 2 ประจำปี 2566 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Device) กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล (Digital Service) กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication)
โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 54.1 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 54.0 ของไตรมาสแรกและยังคงอยู่ในระดับเชื่อมั่นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง โดยปัจจัยด้านปริมาณการผลิตฯ ด้านการจ้างงาน และด้านต้นทุนประกอบการปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยด้านผลประกอบการ ด้านคำสั่งซื้อฯ และด้านการลงทุนเพื่อประกอบการปรับตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลประกอบด้วยภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกันนี้ นโยบายการเปิดประเทศของจีนยังส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของกิจการในประเทศลดลง โดยเฉพาะราคาชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในทางกลับกัน ปัจจัยฉุดรั้งคือ ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งผู้ประกอบการมีความกังวลอยู่ไม่น้อย โดยผู้ประกอบการและคู่ค้าหลายรายชะลอแผนธุรกิจเพื่อรอดูท่าทีการประกาศนโยบายของรัฐบาลใหม่
หากแยกตามรายอุตสาหกรรมจะพบว่า เกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50 ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อยู่ที่ระดับ 54.6 กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อยู่ที่ระดับ 56.9 กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 52.1 และ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อยู่ที่ระดับ 52.4 ขณะที่ กลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม กลับมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่ำกว่าระดับ 50 โดยอยู่ที่ 46.8 ในไตรมาสนี้
ความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมดิจิทัลที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร ซึ่ง นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 ยังเติบโตดี จากความต้องการ Digital Transformation ในองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับ INET คือ Platform Service Provider ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ ในการพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึง มีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Infrastructure) ที่แข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน INET อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำบริษัทร่วมทุน 3 บริษัทเข้าระดมทุนในตลาดทุน ประกอบด้วย บมจ.วัน อิเล็กทรอนิกส์ บิลลิ่ง มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านเอกสารภาษีและเอกสารการค้า และ บมจ.อินเทลลิจิสต์ เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้าน Big Data และ Data Analytics เข้าระดมทุนในตลาด LiVE Exchange ภายในไตรมาส 1/67 และบริษัท ไอเน็กซ์ บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสื่อสารบรอดแบนด์แบบครบวงจร (Broadband Service) เข้าระดมทุนในตลาด mai ภายในปี 68
บล.หยวนต้า วิเคราะห์หุ้น INET โดยคาดกำไรสุทธิ 2Q66 ที่ 34 ล้านบาท (+8.8% QoQ, +34.8% YoY) กำไรที่เติบโต QoQ มาจากรายได้ที่เติบโตและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น กำไรที่เติบโตเด่น YoY มาจากฐานต่ำ ซึ่งกำไรปกติ 1H66 คิดเป็น 41% ของประมาณการทั้งปี 2566 ของเรา
ทั้งนี้บริษัทยังคงประมาณการและราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 6.00 บาทต่อหุ้น อิง EV/EBITA ที่ 8.6x ในเชิงพื้นฐาน โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย บน PER66 เพียง 14x และ P/BV เพียง 0.9x ไม่แพง ทำให้หุ้นมี Downside จำกัด