COM7 โชว์งบ Q2/66 โตต่อเนื่อง กวาดกำไรที่ 704 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 14% ส่วนรายได้อยู่ที่ 16,043 ล้านบาท โตกว่า 11% จากปัจจัยเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศฟื้นตัว ด้านช่องทางสาขามี 1,287 แห่ง แม้ปิดรีโนเวท 40 แห่ง ซึ่งเป็นสาขาที่มียอดขายระดับสูง และบางห้างที่ปิดปรับปรุง แต่รายได้จากสาขาเดิม (SSSG) ยังแข็งแรงดันครึ่งปีแรกสตรอง มองครึ่งปีหลังโตกว่า ชูสาขาทั่วไทย ควบคู่การใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือบุกตลาดพร้อมรับไฮซีซั่น สินค้าใหม่เปิดตัวหนุนทั้งปีรายได้โต 20% ตามเป้า
นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผย ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2566 เติบโตต่อเนื่อง จากมีกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท 704.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท 1,577.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.43%
ขณะที่ ไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 15,989.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% มีรายได้รวม 16,042.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% กำไรขั้นต้น 2,325.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.1% เติบโตตามแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง ภาคการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับค่อนข้างสูง และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงมีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบให้รายได้ รวมทั้ง มีการปิดปรับปรุงร้าน 40 สาขา ส่วนใหญ่เป็นร้าน Studio7 ที่มียอดจำหน่ายระดับสูง เตรียมพร้อมสำหรับเปิดตัวสินค้า กับร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ รองรับไฮซีซั่นธุรกิจ รวมทั้ง ศูนย์การค้าปิดปรับปรุง 2 แห่ง คือ เดอะมอลล์บางกะปิ และเดอะมอลล์บางแค ซึ่งมีแผนจะกลับมาเปิดในปลายปีนี้ด้วย 2 สาเหตุดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ ขาดรายได้ในช่วงไตรมาส 2 ประมาณ 1,100 ล้านบาท
ดังนั้น ในส่วนของการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการ ส่วนใหญ่ยังคงมาจาก รายได้ของร้านสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น Same Store Sales Growth อยู่ที่ราว 10% สะท้อนกลยุทธ์บุกสาขาเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทต่อไป
ในด้านช่องทางการจำหน่าย ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีจำนวน 1,287 สาขา โดยขยายสาขาเพิ่มขึ้น 127 สาขา เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 มีจำนวน 1,160 สาขา ประกอบด้วย BaNANA, Bb, B-Play, BKK, BeBePhone, E-quip, Franchise, iCare, KingKong Phone, Studio7, True Shop by Com7, U-Store, PetPaw และ Brand shop โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมี 1,400 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ COM7 มุ่งเน้นพัฒนาช่องทางการจำหน่ายออนไลน์เพื่อเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกลุ่มสินค้า IT อันดับ 1 ในไทย เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มยอดขาย และมุ่งเน้นกลยุทธ์การขายและการตลาดในผลิตภัณฑ์ กลุ่ม Accessories ที่มีอัตรากำไรสูง โดยเฉพาะสินค้า House Brand เป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลงานครึ่งปีแรกเติบโตจากสินค้ากลุ่มที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ทั้ง Smartphone Tablet และ Accessories รวมทั้ง การต่อยอดจากสินค้าเทคโนโลยี ไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาส โดยมีความคืบหน้า ธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 เปิดไปแล้ว 8 สาขา ขณะที่ร้านอาหารสัตว์เลี้ยงในชื่อแบรนด์ "Pet Paw" เปิดแล้ว 2 สาขา เสริมแกร่งโมเดล Standalone ย้ำความเชี่ยวชาญธุรกิจค้าปลีก มองครึ่งปีหลังโตกว่า จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ และสาขาที่ปิดปรับปรุงพร้อมเปิดให้บริการ เดินหน้าสู่เป้าหมายปีนี้ COM7 คาดรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน ตามที่วางไว้
นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผย ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2566 เติบโตต่อเนื่อง จากมีกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท 704.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท 1,577.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.43%
ขณะที่ ไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 15,989.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% มีรายได้รวม 16,042.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% กำไรขั้นต้น 2,325.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.1% เติบโตตามแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง ภาคการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับค่อนข้างสูง และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงมีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบให้รายได้ รวมทั้ง มีการปิดปรับปรุงร้าน 40 สาขา ส่วนใหญ่เป็นร้าน Studio7 ที่มียอดจำหน่ายระดับสูง เตรียมพร้อมสำหรับเปิดตัวสินค้า กับร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ รองรับไฮซีซั่นธุรกิจ รวมทั้ง ศูนย์การค้าปิดปรับปรุง 2 แห่ง คือ เดอะมอลล์บางกะปิ และเดอะมอลล์บางแค ซึ่งมีแผนจะกลับมาเปิดในปลายปีนี้ด้วย 2 สาเหตุดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ ขาดรายได้ในช่วงไตรมาส 2 ประมาณ 1,100 ล้านบาท
ดังนั้น ในส่วนของการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการ ส่วนใหญ่ยังคงมาจาก รายได้ของร้านสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น Same Store Sales Growth อยู่ที่ราว 10% สะท้อนกลยุทธ์บุกสาขาเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทต่อไป
ในด้านช่องทางการจำหน่าย ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีจำนวน 1,287 สาขา โดยขยายสาขาเพิ่มขึ้น 127 สาขา เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 มีจำนวน 1,160 สาขา ประกอบด้วย BaNANA, Bb, B-Play, BKK, BeBePhone, E-quip, Franchise, iCare, KingKong Phone, Studio7, True Shop by Com7, U-Store, PetPaw และ Brand shop โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมี 1,400 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ COM7 มุ่งเน้นพัฒนาช่องทางการจำหน่ายออนไลน์เพื่อเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกลุ่มสินค้า IT อันดับ 1 ในไทย เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มยอดขาย และมุ่งเน้นกลยุทธ์การขายและการตลาดในผลิตภัณฑ์ กลุ่ม Accessories ที่มีอัตรากำไรสูง โดยเฉพาะสินค้า House Brand เป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลงานครึ่งปีแรกเติบโตจากสินค้ากลุ่มที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ทั้ง Smartphone Tablet และ Accessories รวมทั้ง การต่อยอดจากสินค้าเทคโนโลยี ไปสู่ธุรกิจที่เป็นโอกาส โดยมีความคืบหน้า ธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 เปิดไปแล้ว 8 สาขา ขณะที่ร้านอาหารสัตว์เลี้ยงในชื่อแบรนด์ "Pet Paw" เปิดแล้ว 2 สาขา เสริมแกร่งโมเดล Standalone ย้ำความเชี่ยวชาญธุรกิจค้าปลีก มองครึ่งปีหลังโตกว่า จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ และสาขาที่ปิดปรับปรุงพร้อมเปิดให้บริการ เดินหน้าสู่เป้าหมายปีนี้ COM7 คาดรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน ตามที่วางไว้