Talk of The Town
TACC โชว์รายได้ Q2/66 พุ่ง 14.77% รับไฮซีซั่น บอร์ดเคาะแจกปันผล 0.17 บ./หุ้น-ซื้อหุ้นคืน
11 สิงหาคม 2566
บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดงบไตรมาส 2/66 มีรายได้รวมกว่า 447.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.55 ล้านบาท หรือ 14.77% กำไรสุทธิ 62.41 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันธุรกิจเครื่องดื่ม นักท่องเที่ยวคึกคัก ฟากผู้บริหาร "ชัชชวี วัฒนสุข" ระบุครึ่งปีหลังเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์เดิม ลุยพัฒนาคุณภาพสินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภค มั่นใจสนับสนุนรายได้ปีนี้โตเข้าเป้าระดับ 10% พร้อมรุกขยายลงทุนธุรกิจ Health and Wellness เต็มรูปแบบ เพื่อก้าวเข้าสู่ Next S Curve
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวม 447.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 389.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 62.41 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 826.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.46% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 728.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.84 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายเติบโตได้ดี เนื่องจากในไตรมาส 2 จะเป็นช่วงฤดูกาลที่ดีของธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งในปีนี้ก็มีทิศทางเดียวกัน ทำให้มียอดขายเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รวมถึงยังได้รับอานิสงส์ของการฟื้นตัวของการเดินทางท่องเที่ยว และการฟื้นตัวกลับมาของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.17 บาทต่อหุ้น โดยเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2566
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน(Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และจำนวนที่จะซื้อคืนไม่เกิน 11,000,000 หุ้น คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 1.81 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทฯยังคงเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์เดิม ลุยพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภค อีกทั้งบริหารจัดการควบคุมพัฒนาค่าใช้จ่ายและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังรุกขยายลงทุนธุรกิจ Health and Wellness เต็มรูปแบบ
โดยกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมทั้งออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และ เครื่องดื่ม Non Coffee Menu ใน All Café ทั้งในประเทศไทย และ 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา
กลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยาย Brand TRIVA (ทรีว่า) ไซรัปผลไม้เข้มข้นจากธรรมชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการ และสร้างความแตกต่างให้กับผู้ประกอบการ ร้านค้า คาเฟ่ (Total solution service offering) เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มต่างๆ
"แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 10% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจเครื่องดื่มที่เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ และการเดินหน้าธุรกิจ Health and Wellness ของบริษัทย่อยแบบครบวงจร ในนามบริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด เพื่อขยายแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็น Next S Curve ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต”นายชัชชวี กล่าวในที่สุด
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวม 447.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 389.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 62.41 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 826.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.46% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 728.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.84 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายเติบโตได้ดี เนื่องจากในไตรมาส 2 จะเป็นช่วงฤดูกาลที่ดีของธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งในปีนี้ก็มีทิศทางเดียวกัน ทำให้มียอดขายเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รวมถึงยังได้รับอานิสงส์ของการฟื้นตัวของการเดินทางท่องเที่ยว และการฟื้นตัวกลับมาของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.17 บาทต่อหุ้น โดยเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2566
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน(Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และจำนวนที่จะซื้อคืนไม่เกิน 11,000,000 หุ้น คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 1.81 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทฯยังคงเดินหน้าสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์เดิม ลุยพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภค อีกทั้งบริหารจัดการควบคุมพัฒนาค่าใช้จ่ายและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังรุกขยายลงทุนธุรกิจ Health and Wellness เต็มรูปแบบ
โดยกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมทั้งออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และ เครื่องดื่ม Non Coffee Menu ใน All Café ทั้งในประเทศไทย และ 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา
กลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยาย Brand TRIVA (ทรีว่า) ไซรัปผลไม้เข้มข้นจากธรรมชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการ และสร้างความแตกต่างให้กับผู้ประกอบการ ร้านค้า คาเฟ่ (Total solution service offering) เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มต่างๆ
"แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 10% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจเครื่องดื่มที่เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ และการเดินหน้าธุรกิจ Health and Wellness ของบริษัทย่อยแบบครบวงจร ในนามบริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด เพื่อขยายแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็น Next S Curve ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต”นายชัชชวี กล่าวในที่สุด