Wealth Sharing

CIVIL ครึ่งปีแรก กวาดรายได้ 2,618 ลบ. Q3/66 เตรียมส่งมอบโปรเจคไฮสปีดเทรน ไทย-จีน


11 สิงหาคม 2566
CIVIL เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก รายได้รวม 2,618 ล้านบาท กำไรสุทธิ 61 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 8.5% จากการขยายสัดส่วนงานมาร์จิ้นสูง เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานก่อสร้าง จัดการต้นทุนดี ทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/2566 เตรียมส่งมอบงานโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา สัญญาที่ 2-1 (สีคิ้ว-กุดจิก) พร้อมเข้ารับงานโครงการภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง เสริมแกร่ง Backlog เติบโตตามเป้า 20,000 ล้านบาท

CIVIL ครึ่งปีแรก.jpg

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก 2566 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 2,618 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,112 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท 
อย่างไรก็ตาม จากสัดส่วนงานก่อสร้างในกลุ่มงานถนนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเติบโตของรายได้จากธุรกิจเหมืองหิน และความสามารถในการจัดการด้านค่าใช้จ่ายจากประสิทธิภาพการบริหารการใช้เครื่องจักร แม้ว่ารายได้จะลดลง แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังเพิ่มสูงขึ้นจากอัตรากำไรขั้นต้น 8.4% เป็น 8.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มที่ดี โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นสำหรับครึ่งปีแรก 2566 จำนวน 223 ล้านบาท 

ขณะที่ไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,170 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,561 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้ที่ลดลงของงานก่อสร้างกลุ่มงานรถไฟ ซึ่งเป็นช่วงท้ายของการดำเนินงาน และอยู่ระหว่างส่งมอบงานและความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงสระบุรี-หนองคาย ได้รับผลกระทบจากการถูกจำกัดช่วงเวลาของการทำงานจากมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น 

สำหรับทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการเตรียมส่งมอบงานโครงการก่อสร้าง ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา สัญญาที่ 2-1 (สีคิ้ว-กุดจิก) ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ และ เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทย-รัฐบาลจีน เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของทั้งสองประเทศ 

นอกจากนี้ยังมีแผนการเข้าประมูลและรับงานโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มประเภทงานทาง และ กลุ่มประเภทอื่นๆ ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของรายได้จากการส่งมอบงานเก่าและเข้ารับงานใหม่สะท้อนราคาต้นทุนปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของมูลค่างานโครงการก่อสร้างในมือ (Backlog) ให้มีจำนวนตามเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 20,000 ล้านบาท