จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : มะพร้าวไทยครองแชมป์ใช้สิทธิ FTA ติดปีก COCOCO เตรียมระดมทุนขายหุ้น IPO
11 สิงหาคม 2566
ผลไม้ของไทยของไทยได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะ “มะพร้าว” ที่มีศักยภาพในการแข่งขัน และเป็นข่าวดีของนักลงทุนเมื่อบมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) เตรียมขายหุ้น IPO จำนวน 370 ล้านหุ้น ให้นักลงทุนและคาดจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลางเดือนสิงหาคม 2566 นี้
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในเดือนม.ค.-พ.ค. ปี 66 จำนวน 12 ฉบับ มีมูลค่ารวม 33,455.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ สูงถึง 76.70%
สำหรับสินค้าผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน ฝรั่ง มะม่วง และมังคุด นับเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในจีนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน อีกทั้งยังมีมูลค่าการใช้สิทธิฯส่งออกสูง ภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มากกว่า 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ สินค้ามะพร้าวทั้งกะลา ก็เป็นหนึ่งในสินค้าผลไม้จากไทยที่มีการขยายตัวสูงในจีน โดยในช่วงกลางไตรมาส 2 ของปี 66 สินค้ามะพร้าวทั้งกะลามีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ส่งออกไปจีน (ACFTA) สูงถึง 187.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 26.96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
จีนมีการนำเข้ามะพร้าวทั้งกะลาจากไทย เป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนปริมาณการนำเข้าสูงถึง 54.83% และมีมูลค่าส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80.02% ของการนำเข้าสินค้ามะพร้าวทั้งกะลาทั้งหมด ซึ่งการนำเข้าโดยใช้สิทธิ ACFTA ทำให้ไทยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจีนเหลือ 0% จากเดิมที่จะต้องเสียภาษี 60% (MFN Rate)
การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ต่างๆ เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดอุปสรรคทางการค้าทางด้านภาษี อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพ ขีดความสามารถให้ผู้ส่งออกไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ อย่างไรก็ตาม สินค้าที่จะส่งออกจะต้องมีมาตรฐาน คุณภาพดี และเป็นไปตามกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดเพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี
เมื่อกล่าวถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมะพร้าว ต้องยอมรับว่า บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) มีความเชี่ยวชาญและเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับมะพร้าวมานาน โดยบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิต-จำหน่ายและส่งออก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้รายใหญ่ของไทย เช่น กะทิบรรจุกระป๋อง กะทิบรรจุกล่องยูเอชที(UHT) กะทิพาสเจอร์ไรส์ น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง น้ำมะพร้าวกล่องยูเอชที (UHT) น้ำมะพร้าวพาสเจอร์ไรส์ ขนมมะพร้าว และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco, Cocoburi รวมถึงการผลิตสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้ตราสินค้าMoochie โดยสินค้าทั้งสองประเภทมีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และการรับจ้างผลิตสินค้า(OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการเป็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพจากโปรตีนพืช และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชีสและเนยประเภทต่างๆ ที่ทำจากพืช
และบริษัทกำลังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการ โดย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) “วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว” กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 370 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ในช่วงกลางเดือน ส.ค.และน่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม ภายในปลายเดือน ส.ค.66 หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.66
เงินที่ระดมทุนได้ บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ 1. ขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังผลิตน้ำมะพร้าวจาก 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี รวมถึงขยายคลังสินค้า 2. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในกลุ่มขนมกินเล่นของสุนัขและแมว 3. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าไอศกรีม, 4. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ 5. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ (Working Capital)
สำหรับการขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรใหม่ได้ในเดือน ส.ค.นี้ โดยจะพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/66 ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเต็มที่ทันที สามารถรองรับออเดอร์ที่ขณะนี้มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ยาวไปจนถึงปีหน้าแล้ว ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในเดือนม.ค.-พ.ค. ปี 66 จำนวน 12 ฉบับ มีมูลค่ารวม 33,455.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ สูงถึง 76.70%
สำหรับสินค้าผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน ฝรั่ง มะม่วง และมังคุด นับเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในจีนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน อีกทั้งยังมีมูลค่าการใช้สิทธิฯส่งออกสูง ภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มากกว่า 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ สินค้ามะพร้าวทั้งกะลา ก็เป็นหนึ่งในสินค้าผลไม้จากไทยที่มีการขยายตัวสูงในจีน โดยในช่วงกลางไตรมาส 2 ของปี 66 สินค้ามะพร้าวทั้งกะลามีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ส่งออกไปจีน (ACFTA) สูงถึง 187.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 26.96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
จีนมีการนำเข้ามะพร้าวทั้งกะลาจากไทย เป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนปริมาณการนำเข้าสูงถึง 54.83% และมีมูลค่าส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80.02% ของการนำเข้าสินค้ามะพร้าวทั้งกะลาทั้งหมด ซึ่งการนำเข้าโดยใช้สิทธิ ACFTA ทำให้ไทยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจีนเหลือ 0% จากเดิมที่จะต้องเสียภาษี 60% (MFN Rate)
การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ต่างๆ เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดอุปสรรคทางการค้าทางด้านภาษี อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพ ขีดความสามารถให้ผู้ส่งออกไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ อย่างไรก็ตาม สินค้าที่จะส่งออกจะต้องมีมาตรฐาน คุณภาพดี และเป็นไปตามกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดเพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี
เมื่อกล่าวถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมะพร้าว ต้องยอมรับว่า บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) มีความเชี่ยวชาญและเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับมะพร้าวมานาน โดยบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิต-จำหน่ายและส่งออก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้รายใหญ่ของไทย เช่น กะทิบรรจุกระป๋อง กะทิบรรจุกล่องยูเอชที(UHT) กะทิพาสเจอร์ไรส์ น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง น้ำมะพร้าวกล่องยูเอชที (UHT) น้ำมะพร้าวพาสเจอร์ไรส์ ขนมมะพร้าว และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco, Cocoburi รวมถึงการผลิตสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้ตราสินค้าMoochie โดยสินค้าทั้งสองประเภทมีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และการรับจ้างผลิตสินค้า(OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการเป็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพจากโปรตีนพืช และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชีสและเนยประเภทต่างๆ ที่ทำจากพืช
และบริษัทกำลังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการ โดย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) “วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว” กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 370 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ในช่วงกลางเดือน ส.ค.และน่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในหมวดธุรกิจ (Sector) อาหารและเครื่องดื่ม ภายในปลายเดือน ส.ค.66 หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.66
เงินที่ระดมทุนได้ บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ 1. ขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังผลิตน้ำมะพร้าวจาก 110,000 ตัน/ปี เป็น 218,000 ตัน/ปี รวมถึงขยายคลังสินค้า 2. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าในกลุ่มขนมกินเล่นของสุนัขและแมว 3. ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายประเภทสินค้าไอศกรีม, 4. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ 5. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ (Working Capital)
สำหรับการขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรใหม่ได้ในเดือน ส.ค.นี้ โดยจะพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/66 ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเต็มที่ทันที สามารถรองรับออเดอร์ที่ขณะนี้มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ยาวไปจนถึงปีหน้าแล้ว ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ