Wealth Sharing
FLOYD ผลงานครึ่งปีแรก กำไรก้าวกระโดด 200.31 ตุน Backlog 345 ลบ. พร้อมลุยงาน Green building
11 สิงหาคม 2566
บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD โชว์กำไรครึ่งแรกปี 2566 สุดแกร่ง โต 200.31% แตะระดับ 16.39 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2566 กำไรพุ่ง 102.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน “ทศพร จิตตวีระ” บอสใหญ่เผย ดาวเด่นเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ และอาคารสำนักงาน ล่าสุดตุน Backlog 345 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยงาน Green building และประมูลงานใหม่ มั่นใจทำรายได้ปีนี้เข้าเป้า 400 ล้านบาท
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกของปี 2566 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) มีกำไรสุทธิ 16.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 0.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการบริการสำหรับงวด 6 เดือน จำนวน 191.18 ล้านบาท และไตรมาส 2/2566 จำนวน 71.63 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้น 254.23% และ 202.11% ตามลำดับ โดยรายได้ที่โดดเด่นมาจาก รายได้จากโครงการแนวราบ และอาคารสำนักงาน ซึ่งต่อเนื่องมาจากความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างที่เริ่มในช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อน โดยบริษัทฯ ทยอยรับรู้รายได้ตามขั้นความสำเร็จของงานตลอดระยะเวลาสัญญา ซึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 344.66 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงต้องควบคุมต้นทุนอย่างรัดกุม ปิดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในทุกๆ ด้าน ปักธงเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม ในกลุ่มห้างค้าปลีก อาคารสำนักงาน และ Data Center ที่มีการขยายตัว พร้อมกับการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายงาน อาทิ อาคารสิ่งปลูกสร้างที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงานเพื่อลดภาวะโลกร้อน หรือที่เรียกว่า อาคารสีเขียว (Green building) ซึ่งเป็นเทรนด์อาคารยุคใหม่แห่งอนาคต ที่สร้างขึ้นโดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารจัดการภายในที่เน้นการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งกำลังขยายตัวเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงาน อาคารสำนักงาน วี. วรรณ ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานสูง 44 ชั้น บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ใจกลางเมือง ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นอาคารเขียวที่ออกแบบตามมาตรฐาน LEED ระดับ Gold และ WELL Building Standard ไปเป็นที่เรียบร้อย และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างประมูลงานเพิ่มเติมอีก 3-4 โครงการอีกด้วย โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปี 2566 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 345 ล้านบาท
ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว คาดว่าในครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการที่ชะลอเปิดโครงการใหม่จะเริ่มกลับมาเดินหน้าโครงการที่ชะลอไว้อย่างต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคมใหม่ๆ ที่เริ่มเปิดใช้งาน จะส่งผลให้เพิ่มความเชื่อมั่นในภาคเอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ อาคารมิกซ์ยูส ห้างสรรพสินค้าและค้าปลีกที่มีแนวโน้มขยายตัว และรองรับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้อาคารสิ่งปลูกสร้างที่คำนึงถึงมาตรฐานและรักษ์โลกมีแนวโน้มการขยายตัวมากขึ้น และเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตในอนาคต
“ด้วยความพร้อมของบริษัทฯ ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องกลแบบครบวงจร รวมถึงทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ จึงทำให้ FLOYD มีความพร้อมเต็มที่ในการขยายงานที่มีความหลากหลายและต้องใช้ทักษะสูง จะส่งผลให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด และเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพที่มีความปลอดภัยอย่างสูงสุด จะดันรายได้ปี 2566 ให้เติบโตตามเป้า 400 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน” นายทศพร กล่าวทิ้งท้าย
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกของปี 2566 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) มีกำไรสุทธิ 16.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 0.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการบริการสำหรับงวด 6 เดือน จำนวน 191.18 ล้านบาท และไตรมาส 2/2566 จำนวน 71.63 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้น 254.23% และ 202.11% ตามลำดับ โดยรายได้ที่โดดเด่นมาจาก รายได้จากโครงการแนวราบ และอาคารสำนักงาน ซึ่งต่อเนื่องมาจากความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างที่เริ่มในช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อน โดยบริษัทฯ ทยอยรับรู้รายได้ตามขั้นความสำเร็จของงานตลอดระยะเวลาสัญญา ซึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 344.66 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงต้องควบคุมต้นทุนอย่างรัดกุม ปิดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในทุกๆ ด้าน ปักธงเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม ในกลุ่มห้างค้าปลีก อาคารสำนักงาน และ Data Center ที่มีการขยายตัว พร้อมกับการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายงาน อาทิ อาคารสิ่งปลูกสร้างที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงานเพื่อลดภาวะโลกร้อน หรือที่เรียกว่า อาคารสีเขียว (Green building) ซึ่งเป็นเทรนด์อาคารยุคใหม่แห่งอนาคต ที่สร้างขึ้นโดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบริหารจัดการภายในที่เน้นการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งกำลังขยายตัวเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงาน อาคารสำนักงาน วี. วรรณ ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานสูง 44 ชั้น บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ใจกลางเมือง ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นอาคารเขียวที่ออกแบบตามมาตรฐาน LEED ระดับ Gold และ WELL Building Standard ไปเป็นที่เรียบร้อย และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างประมูลงานเพิ่มเติมอีก 3-4 โครงการอีกด้วย โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปี 2566 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 345 ล้านบาท
ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว คาดว่าในครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการที่ชะลอเปิดโครงการใหม่จะเริ่มกลับมาเดินหน้าโครงการที่ชะลอไว้อย่างต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคมใหม่ๆ ที่เริ่มเปิดใช้งาน จะส่งผลให้เพิ่มความเชื่อมั่นในภาคเอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ อาคารมิกซ์ยูส ห้างสรรพสินค้าและค้าปลีกที่มีแนวโน้มขยายตัว และรองรับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้อาคารสิ่งปลูกสร้างที่คำนึงถึงมาตรฐานและรักษ์โลกมีแนวโน้มการขยายตัวมากขึ้น และเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตในอนาคต
“ด้วยความพร้อมของบริษัทฯ ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องกลแบบครบวงจร รวมถึงทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ จึงทำให้ FLOYD มีความพร้อมเต็มที่ในการขยายงานที่มีความหลากหลายและต้องใช้ทักษะสูง จะส่งผลให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด และเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพที่มีความปลอดภัยอย่างสูงสุด จะดันรายได้ปี 2566 ให้เติบโตตามเป้า 400 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน” นายทศพร กล่าวทิ้งท้าย