ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2565 ดัชนีผันผวนและแกว่งตัว โดยบล.เอเซียพลัส ระบุว่า สัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางที่สำคัญหลายประเทศ ได้แก่ FED, ECBและ BOE โดยคาดว่าธนาคารกลางทั้ง 3 แห่ง น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราเท่ากันคือ 0.5% ซึ่งตลาดหุ้นก็ได้สะท้อนภาพความคาดหวังดังกล่าวไว้แล้ว และในมุมของฝ่ายวิจัยที่ได้นำเสนอมา ก็เห็นว่าความกังวลเรื่อง เงินเฟ้อสูง และ ดอกเบี้ยขึ้นเร็วจะมีอิทธิพลต่อทิศทางตลาดการเงินลดลง แต่หลังจากนี้ไปจะมีความกังวลเรื่อง Recession เคลื่อนเข้ามาแทนโดยน้ำหนักต่อตลาดหุ้นจะค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น ตามลำดับ
สำหรับประเด็นที่อยู่ในความสนใจในช่วงนี้ เป็นเรื่องของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเริ่มเห็นโอกาสที่จะกลับมาฟื้นตัวเร็วขึ้น หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย.ออกมาต่ำ อีกทั้งเริ่มเห็นการผ่อนคลายมาตรการควบคุม Covid-19 อย่างต่อเนื่อง สัญญาณดังกล่าวน่าจะสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งคาดว่า SET Index น่าจะผันผวนในกรอบแคบ และมี Downside ที่จำกัดประเมินกรอบการเคลื่อนไหวช่วง 1610 - 1635 จุด
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) JKN ล่าสุดได้ปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2565 พบว่า "จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์" หรือ แอน จักรพงษ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ถือหุ้นจำนวน 183,018,523 หุ้น คิดเป็น 25.23% ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อ ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 บุคลลดังกล่าวถือหุ้น จำนวน 322,923,173 หุ้นคิดเป็น 53.16%
โดยจะเห็นว่า ในปี 2565 "แอน จักรพงษ์"ได้ตัดขายหุ้นออกมาจำนวนไม่น้อยกว่า 28%ของหุ้นที่ถือลงทุน ซึ่งเป็นการทยอยตัดขายออกมา โดยเฉพาะช่วงปลายปี 2565 มีการทยอยขายออกมาในสัดส่วนที่สูงกว่าปีอื่นๆ และการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในครั้งนี้ ส่งผลให้ "แอน จักรพงษ์" ถือครองหุ้นต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2560-2565
ทั้งนี้ จากการรายงานจากสำของนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ในปีนี้มีการทำรายการ 2 ครั้ง ดังนี้
รายงานการจำหน่าย หุ้นของ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดย นาย จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 2.5213% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 42.482% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 2.5213% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 42.482% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
รายงานการจำหน่าย หุ้นของ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดย นาย จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 2.783% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 39.699% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 2.783% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 39.699% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 การถือครองหุ้นของ "แอน จักรพงษ์" ยังคงมีสัดส่วนอยู่ที่ 39.699% แต่ถ้าหากนำมาพิจารณาเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2565 จะเห็นว่าสัดส่วนการถือครองหุ้นเหลือเพียง 25.23% ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า บุคคลดังกล่าวได้ทยอยขายหุ้นออกมาอีก จนทำให้สัดส่วนลดลง
โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2565 ประกอบด้วย
จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ | 183,018,523 | 25.23 |
BNP PARIBAS SINGAPORE BRANCH | 31,000,000 | 4.27 |
เฉลิม หาญพาณิชย์ | 24,100,000 | 3.32 |
ไทยเอ็นวีดีอาร์ | 20,753,396 | 2.86 |
สุทธิเกียรติ กิตติภัทรากุล | 8,000,400 | 1.10 |
พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ | 7,262,800 | 1.00 |
ชนม์นิภา ลำโกน | 6,300,250 | 0.87 |
วันทนีย์ รุจิราวรรณกร | 4,950,400 | 0.68 |
วิสันต์ เสถียรจริยวงศ์ | 3,761,200 | 0.52 |
องอาจ วรวิทย์ลิขิต | 3,500,000 | 0.48 |
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น JKN ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ลดลง 18.81% จากราคา 5.05 บาท ลดลงมาอยู่ที่ 4.10 บาท โดยเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 5.20 บาท และต่ำสุดที่ 4 บาท
อนึ่ง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 1. ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์2. ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าทางสถานีโทรทัศน์ 3. ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์
JKN เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 โดยเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO)ในราคาหุ้นละ 8 บาท จากนั้นในปี 2563 ย้ายมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 2,989.08 ล้านบาท(ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2565)
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ประกาศซื้อกิจการทั้งหมด 100% ของ Miss Universe Organization (MUO) หรือองค์กรนางงามจักรวาล จาก IMG Worldwide ปัจจุบันพร้อมแล้วที่จะจัดการประกวด Miss Universe 2022 ครั้งที่ 71 และบริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมที่จะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประกวด Miss Universe 2023 ครั้งที่ 72