เทียบหมัดต่อหมัด 3 ยักษ์ เจ้าตลาดสินเชื่อทะเบียนรถ

ปีนี้ถือเป็นปีแห่งความบอบช้ำของราคาหุ้นบริษัทเช่าซื้อหรือลีสซิ่ง หลังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ประกาศปรับเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ อัตราไม่เกิน 23% สำหรับรถยนต์มือหนึ่งไม่เกิน 10% และรถยนต์มือสองไม่เกิน 15% ทำให้นักลงทุน PANIC แนวโน้มผลประกอบการ ซึ่งแน่นอนว่ายากที่จะเลี่ยงผลกระทบรายได้ดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง

กดดันราคาหุ้น 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถของเมืองไทย อย่าง บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (TIDLOR) และบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAWAD)

เห็นได้จากราคาหุ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ต่างปรับตัวลดลงจากแรงเทขาย เพื่อลดความเสี่ยงจากการเข้ามาคุมอัตราดอกเบี้ยของสคบ. เริ่มจากราคาหุ้น MTC ที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ที่ระดับ 32.50 บาท เทียบราคาสูงสุดที่ 62.25 บาท TIDLOR ลงไปทดสอบจุดต่ำสุดที่ 23.80 บาท จากราคาสูงสุด 38.50 บาท แลเ SAWAD ต่ำสุดที่ 38.00 บาท จากราคาสูงสุด 68.50 บาท

ราคาหุ้นที่ดำดิ่ง! ของ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถของเมืองไทย ถึงจุดที่น่าสะสมแล้วหรือไม่???

นักลงทุนยังคงตั้งคำถาม...

อย่างไรก็ตาม หลังประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 MTC TIDLOR SAWAD ต่างรายได้ผลการดำเนินงานที่ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งรายได้และกำไร

เริ่มจาก MTC ผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 3/65 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 5,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 28.60%

ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,205 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 0.33 % จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดสินเชื่อคงค้างที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินเชื่อคงค้างกว่า 114,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ตามมาด้วย TIDLOR ไตรมาส 3/65 มีรายได้รวม 3,930 ล้านบาท เติบโต 34.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 901 ล้านบาท เติบโต 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัยเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับเป้าหมายอัตราเติบโตที่วางไว้ 23 - 28% และ 30 - 35% ตามลำดับ

ส่วน SAWAD ไตรมาส 3/65 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,251.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.43% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ์อยู่ที่ 1,198.09 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยราว 2,307.07 ล้านบาท และรายได้อื่นราว 970.84 ล้านบาท รวมรายได้อยู่ที่ 3,277.93 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 32.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้และกำไรมาจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯอยู่ที่ 51,477 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 36,986 ล้านบาท

ขณะที่มุมมองของบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” MTC TIDLOR และ SAWAD โดยให้ราคาเป้าหมาย MTC ที่ 57 บาท/หุ้น TIDLOR ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 35 บาท และ SAWAD ราคาพื้นฐาน 57.50 บาท

หากเทียบราคาเป้าหมายของ MTC TIDLOR และ SAWAD และราคาหุ้นในกระดาน ณ ราคาปิดวันที่ 17 พ.ย.2565 ถือว่ายังมี “อัพไซด์” ค่อนข้างมาก

นักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นน้ำดี ยักษ์ใหญ่ผู้นำตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ...คงต้องรีบเกาะขบวนรถแล้วซินะวิ!