ภาพรวมการลงทุนปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ดัชนียังคงผันผวนต่อเนื่อง แต่ยังสามารถรักษาฐานระดับ 1,600 จุดไว้ได้ในขณะที่ปัจจัยที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนคงหนีไม่พ้นกรณีการทำรายการซื้อขายหุ้นMORE ที่ผิดปกติและการไล่ล่าจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิด ซึ่งคงต้องติดตามกันว่า ผู้คุมกฎในทุกส่วนจะสามารถเอาผิดได้หรือไม่ และบทสรุปของกรณีนี้จะเป็นอย่างไรคงต้องตามกันอีกยาว
สำหรับภาพรวมการลงทุนโบรกเกอร์ประเมินว่าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยบล.เอเซียพลัส ประเมินว่าการปรับฐานของ SET Index น่าจะใกล้จบลง โดยพื้นที่บริเวณที่เป็นแนวรับช่วง 1610 - 1613 จุด ยังรองรับได้ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1631 จุด
ขณะที่ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่าปัจจัยที่จะมีผลกระทบได้แก่ FTSE All World Index(Large Cap Mid Cap) มีหุ้นไทยเข้าใหม่ 1บริษัทโดย Large Cap : ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก ส่วน Mid Cap : หุ้นเข้า คือ TLI และไม่มีหุ้นออก โดย TLI เป็น Top Buy อันดับ 1 ใน ตะกร้า FTSE - EM Asia รอบนี้ คาดเม็ดเงิน 36ล้านเหรียญฯ ส่วน BANPU ถูกเพิ่มน้ำหนัก เม็ดเงินราว 26 ล้านเหรียญฯ ตามมาด้วย MINT 2 ล้านเหรียญฯ
ทั้งนี้เมื่อสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนการลงทุนของ "พีรนาถ โชควัฒนา"นักลงทุนรายใหญ่ พบว่า ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน 2565 บุคคลดังกล่าวได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นบริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)MC และบริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) SNC จากเดิมที่ถือลงทุนอยู่แล้วส่วนหนึ่ง
ปัจจุบัน "พีรนาถ โชควัฒนา" มีการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยถือหุ้นจำนวน 10 บริษัทและมีมูลค่าพอร์ตลงทุนรวมประมาณ 2,072 ล้านบาท ประกอบด้วย
หุ้น | จำนวน (หุ้น) | %การถือครอง |
HL | 2,555,000 | 0.94 |
JMART | 27,328,585 | 1.92 |
JUBILE | 7,655,000 | 4.39 |
KISS | 5,823,000 | 0.97 |
KLINIQ | 2,424,242 | 1.10 |
MC | 20,731,900 | 2.62 |
PREB | 10,180,525 | 3.30 |
SNC | 4,950,600 | 1.37 |
SORKON | 4,468,600 | 1.38 |
THREL | 14,358,000 | 2.39 |
จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าในเดือนพฤศจิกายน 2565 "พีรนาถ โชควัฒนา" ถือ หุ้น MC จำนวน 20,731,900 หุ้น คิดเป็น2.62% จากเดือนกันยายน 2565 ถือหุ้น 20,246,000 หุ้น คิดเป็น 2.56% ดังนั้นจะเห็นว่ามีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นมากขึ้น ขณะเดียวกันล่าสุดในเดือนตุลาคม 2565ได้ถือหุ้นSNC จำนวน 4,950,600 หุ้นคิดเป็น 1.37%จากเดิมในเดือนสิงหาคม 2565 ถือหุ้น 4,823,100 หุ้น คิดเป็น1.33%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นจะมีจำนวนไม่สูงมากนัก แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่ามีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นมากขึ้น ก็จะพอเป็นสัญญาณที่ดีให้กับผู้ที่สนใจในหุ้นดังกล่าวไม่มากก็น้อย
ขณะที่การเคลื่อนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นMC ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รับตัวเพิ่มขึ้น 5.82% จากราคา 9.45 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 10 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่่ 10.40 บาท ขณะที่การเคลื่อนไหวราคาหุ้นSNC ปรับตัวลดลง 23.78% จากราคา18.50 บาทลดลงมาอยู่ที่ 14.10 บาท เคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 19.10 บาท
ฝ่ายวิจัยบล.ทิสโก้ ประเมินว่าหุ้นMC มีมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 12.80 บาท อิงจาก PER 18 เท่าปี 2022/23F ปัจจุบัน MC ซื้อขายอยู่ที่ PER 16 เท่า เทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ 28 เท่า โดยผลประกอบการ 3M22/23F คิดเป็น 20% ของประมาณการผลประกอบการปี 2022/23F ของที่คาดอยู่ที่ 566 ล้านบาท (16% YoY) ด้วยเราคาดผลประกอบการจะมีแนวโน้มดีขึ้นใน 2Q-3Q22/23F จากการเข้าสู่ช่วง high season ดังนั้นยังคงประมาณการผลประกอบการไว้ที่เดิม
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ประเมินว่า หุ้นSNC มีValuation ถูก & จ่ายปันผลสูง ให้ราคาพื้นฐาน 17.10 บาท โดยเลื่อนไปอิงกับ P/E ปี 2023F ที่ 8.7 เท่า (Mean 5 ปี 1SD) ณ ราคาปัจจุบัน P/E ปี 23F ต่า เพียง 7.1 เท่า, P/BV 0.9 เท่า คาด DY ปี 23F ไว้ที่ 7% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) แนะนำ ซื้อลงทุนระยะยาว ซึ่งแนวโน้มกำไรสุทธิปี 23F เติบโตไม่มาก ( 2%YoY) แต่จะเพิ่มขึ้นในปี 24F ที่ประเมินว่าจะขยายตัว 12% เพราะกำลังซื้อตลาดสหรัฐมีแนวโน้มลดลงจากความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ได้รับการชดเชยจากตลาดเวียดนามที่จะดีขึ้น