Smart Investment

"พีรนาถ โชควัฒนา" ดอดซื้อ SNC-MC เพิ่ม


23 พฤศจิกายน 2565

ภาพรวมการลงทุนปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ดัชนียังคงผันผวนต่อเนื่อง แต่ยังสามารถรักษาฐานระดับ 1,600 จุดไว้ได้ในขณะที่ปัจจัยที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนคงหนีไม่พ้นกรณีการทำรายการซื้อขายหุ้นMORE ที่ผิดปกติและการไล่ล่าจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิด ซึ่งคงต้องติดตามกันว่า ผู้คุมกฎในทุกส่วนจะสามารถเอาผิดได้หรือไม่ และบทสรุปของกรณีนี้จะเป็นอย่างไรคงต้องตามกันอีกยาว

สำหรับภาพรวมการลงทุนโบรกเกอร์ประเมินว่าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยบล.เอเซียพลัส ประเมินว่าการปรับฐานของ SET Index น่าจะใกล้จบลง โดยพื้นที่บริเวณที่เป็นแนวรับช่วง 1610 - 1613 จุด ยังรองรับได้ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1631 จุด

ขณะที่ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่าปัจจัยที่จะมีผลกระทบได้แก่ FTSE All World Index(Large Cap Mid Cap) มีหุ้นไทยเข้าใหม่ 1บริษัทโดย Large Cap : ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก ส่วน Mid Cap : หุ้นเข้า คือ TLI และไม่มีหุ้นออก โดย TLI เป็น Top Buy อันดับ 1 ใน ตะกร้า FTSE - EM Asia รอบนี้ คาดเม็ดเงิน 36ล้านเหรียญฯ ส่วน BANPU ถูกเพิ่มน้ำหนัก เม็ดเงินราว 26 ล้านเหรียญฯ ตามมาด้วย MINT 2 ล้านเหรียญฯ

ทั้งนี้เมื่อสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนการลงทุนของ "พีรนาถ โชควัฒนา"นักลงทุนรายใหญ่ พบว่า ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน 2565 บุคคลดังกล่าวได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นบริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)MC และบริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) SNC จากเดิมที่ถือลงทุนอยู่แล้วส่วนหนึ่ง

ปัจจุบัน "พีรนาถ โชควัฒนา" มีการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยถือหุ้นจำนวน 10 บริษัทและมีมูลค่าพอร์ตลงทุนรวมประมาณ 2,072 ล้านบาท ประกอบด้วย

หุ้น จำนวน (หุ้น) %การถือครอง 
HL 2,555,000 0.94
JMART 27,328,585 1.92
JUBILE 7,655,000 4.39
KISS 5,823,000 0.97
KLINIQ 2,424,242 1.10
MC 20,731,900 2.62
PREB 10,180,525 3.30
SNC 4,950,600 1.37
SORKON 4,468,600 1.38
THREL 14,358,000 2.39

จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าในเดือนพฤศจิกายน 2565 "พีรนาถ โชควัฒนา" ถือ หุ้น MC จำนวน 20,731,900 หุ้น คิดเป็น2.62% จากเดือนกันยายน 2565 ถือหุ้น 20,246,000 หุ้น คิดเป็น 2.56% ดังนั้นจะเห็นว่ามีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นมากขึ้น ขณะเดียวกันล่าสุดในเดือนตุลาคม 2565ได้ถือหุ้นSNC จำนวน 4,950,600 หุ้นคิดเป็น 1.37%จากเดิมในเดือนสิงหาคม 2565 ถือหุ้น 4,823,100 หุ้น คิดเป็น1.33%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นจะมีจำนวนไม่สูงมากนัก แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่ามีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นมากขึ้น ก็จะพอเป็นสัญญาณที่ดีให้กับผู้ที่สนใจในหุ้นดังกล่าวไม่มากก็น้อย

ขณะที่การเคลื่อนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นMC ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รับตัวเพิ่มขึ้น 5.82% จากราคา 9.45 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 10 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่่ 10.40 บาท ขณะที่การเคลื่อนไหวราคาหุ้นSNC ปรับตัวลดลง 23.78% จากราคา18.50 บาทลดลงมาอยู่ที่ 14.10 บาท เคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 19.10 บาท

ฝ่ายวิจัยบล.ทิสโก้ ประเมินว่าหุ้นMC มีมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 12.80 บาท อิงจาก PER 18 เท่าปี 2022/23F ปัจจุบัน MC ซื้อขายอยู่ที่ PER 16 เท่า เทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ 28 เท่า โดยผลประกอบการ 3M22/23F คิดเป็น 20% ของประมาณการผลประกอบการปี 2022/23F ของที่คาดอยู่ที่ 566 ล้านบาท (16% YoY) ด้วยเราคาดผลประกอบการจะมีแนวโน้มดีขึ้นใน 2Q-3Q22/23F จากการเข้าสู่ช่วง high season ดังนั้นยังคงประมาณการผลประกอบการไว้ที่เดิม

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ประเมินว่า หุ้นSNC มีValuation ถูก & จ่ายปันผลสูง ให้ราคาพื้นฐาน 17.10 บาท โดยเลื่อนไปอิงกับ P/E ปี 2023F ที่ 8.7 เท่า (Mean 5 ปี 1SD) ณ ราคาปัจจุบัน P/E ปี 23F ต่า เพียง 7.1 เท่า, P/BV 0.9 เท่า คาด DY ปี 23F ไว้ที่ 7% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) แนะนำ ซื้อลงทุนระยะยาว ซึ่งแนวโน้มกำไรสุทธิปี 23F เติบโตไม่มาก ( 2%YoY) แต่จะเพิ่มขึ้นในปี 24F ที่ประเมินว่าจะขยายตัว 12% เพราะกำลังซื้อตลาดสหรัฐมีแนวโน้มลดลงจากความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ได้รับการชดเชยจากตลาดเวียดนามที่จะดีขึ้น