Wealth Sharing
NOBLE เผยจ่อบุ๊กกำไรพิเศษจาก PROUD ใน Q3/66 ลุยเปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 17,900 ลบ.
18 สิงหาคม 2566
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “บริษัทฯ” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกประจำปี 2566 จำนวน 0.081 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 111 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 60.1% โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2566 และคาดว่าจะทำการจ่ายเงินปันผลภายในต้นกันยายนนี้
ทั้งนี้เป็นผลมาจาก บริษัทฯประสบความสำเร็จในการเดินหน้าธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ซึ่งสวนกระแสความท้าทายจากการฟื้นตัวของสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 4,478 ล้านบาท เติบโต 76% YoY และกำไรสุทธิอยู่ที่ 184 ล้านบาท เติบโต 990% YoY แม้ว่าบริษัทฯ จะไม่มีโครงการใหม่ประเภทคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอนในครึ่งปีแรก แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตของผลประกอบการไว้ได้ดี โดยช่วงครึ่งปีแรกที่มีการเติบโตจากการับรู้จากการส่งมอบโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) อาทิ โครงการโนเบิล บี19 สุขุมวิท โครงการโนเบิล สเตท สุขุมวิท 39 โครงการนิว โนเบิล ศรีนครินทร์–ลาซาล โครงการโนเบิล อราวน์ อารีย์ โครงการนิว โนเบิล งามวงศ์วาน และโครงการนิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์ เป็นต้น
ขณะที่ยอดขาย (Pre-sale)ไตรมาส 2/2566 และ 7 เดือนแรกที่ผ่าน มาอยู่ที่ 4,040 ล้านบาท และ 9,706 ล้านบาทตามลำดับ (รวมโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการ นิว ครอส คูคต สเตชัน ซึ่งทางบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้บริหารโครงการในบทบาทเดิม) โดยยอดขาย 7 เดือนแรกของปี 2566 มาจากโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เป็นจำนวน 2,808 ล้านบาท และโครงการเปิดใหม่และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นจำนวน 6,898 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 ในมือรวมมูลค่า 17,940 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ) ซึ่งจะทยอยรับรู้ใน 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เริ่มมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งธุรกิจดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลักที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นผู้ให้บริการหลังการขายครบวงจรเต็มรูปแบบ ทั้งบริการการฝากขาย-ปล่อยเช่า บริหารนิติบุคคล บริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ประจำอย่างต่อและเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มอง positive (เชิงบวก) อย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ เห็นการฟื้นตัวของตลาดอย่างชัดเจนตั้งแต่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าลูกค้าต่างชาติจากประเทศจีนจะยังเข้ามาได้ไม่เต็มที่ก็ตาม แต่บริษัทฯ ได้มีการปรับพอร์ตกระจายฐานลูกค้าต่างชาติให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง และเมียร์มาร์ เป็นต้น พร้อมทั้งยอมรับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าชาวต่างชาติในปัจจุบันเปลี่ยนไป โดยจะเน้นซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
“สำหรับปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการปรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า22,200 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าแผนที่วางไว้จากเดิม 10 โครงการ มูลค่ารวม 23,300 ล้านบาท โดยประเดิมเริ่มจากโครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9-เอกมัย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ High-End คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ โครงการ โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ เป็นโครงการทาวน์โฮมระดับ High-End ติดแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ และโครงการร่วมทุนคอนโดมิเนียนมขนาดใหญ่ที่ร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ บนถนนวิทยุ”
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/2566 นี้ บริษัทฯจะได้รับกระแสเงินสดกว่า 1,400 ล้านบาทเข้าบริษัทฯหลังจากได้บรรลุข้อตกลงกระบวนการขายเงินลงทุนและโอนหุ้นดีล 2 โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ให้กับ PROUD เป็นอันเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ พร้อมบันทึกเป็นกําไรพิเศษจาก PROUD เข้ามาทันที ซึ่งจะเป็นการเสริมผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัทฯที่แข็งแกร่งขึ้น
ทั้งนี้เป็นผลมาจาก บริษัทฯประสบความสำเร็จในการเดินหน้าธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ซึ่งสวนกระแสความท้าทายจากการฟื้นตัวของสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 4,478 ล้านบาท เติบโต 76% YoY และกำไรสุทธิอยู่ที่ 184 ล้านบาท เติบโต 990% YoY แม้ว่าบริษัทฯ จะไม่มีโครงการใหม่ประเภทคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอนในครึ่งปีแรก แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตของผลประกอบการไว้ได้ดี โดยช่วงครึ่งปีแรกที่มีการเติบโตจากการับรู้จากการส่งมอบโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) อาทิ โครงการโนเบิล บี19 สุขุมวิท โครงการโนเบิล สเตท สุขุมวิท 39 โครงการนิว โนเบิล ศรีนครินทร์–ลาซาล โครงการโนเบิล อราวน์ อารีย์ โครงการนิว โนเบิล งามวงศ์วาน และโครงการนิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์ เป็นต้น
ขณะที่ยอดขาย (Pre-sale)ไตรมาส 2/2566 และ 7 เดือนแรกที่ผ่าน มาอยู่ที่ 4,040 ล้านบาท และ 9,706 ล้านบาทตามลำดับ (รวมโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการ นิว ครอส คูคต สเตชัน ซึ่งทางบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้บริหารโครงการในบทบาทเดิม) โดยยอดขาย 7 เดือนแรกของปี 2566 มาจากโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เป็นจำนวน 2,808 ล้านบาท และโครงการเปิดใหม่และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นจำนวน 6,898 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 ในมือรวมมูลค่า 17,940 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ) ซึ่งจะทยอยรับรู้ใน 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เริ่มมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งธุรกิจดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลักที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นผู้ให้บริการหลังการขายครบวงจรเต็มรูปแบบ ทั้งบริการการฝากขาย-ปล่อยเช่า บริหารนิติบุคคล บริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ประจำอย่างต่อและเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มอง positive (เชิงบวก) อย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ เห็นการฟื้นตัวของตลาดอย่างชัดเจนตั้งแต่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าลูกค้าต่างชาติจากประเทศจีนจะยังเข้ามาได้ไม่เต็มที่ก็ตาม แต่บริษัทฯ ได้มีการปรับพอร์ตกระจายฐานลูกค้าต่างชาติให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง และเมียร์มาร์ เป็นต้น พร้อมทั้งยอมรับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าชาวต่างชาติในปัจจุบันเปลี่ยนไป โดยจะเน้นซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
“สำหรับปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการปรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า22,200 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าแผนที่วางไว้จากเดิม 10 โครงการ มูลค่ารวม 23,300 ล้านบาท โดยประเดิมเริ่มจากโครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9-เอกมัย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ High-End คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ โครงการ โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ เป็นโครงการทาวน์โฮมระดับ High-End ติดแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ และโครงการร่วมทุนคอนโดมิเนียนมขนาดใหญ่ที่ร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ บนถนนวิทยุ”
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/2566 นี้ บริษัทฯจะได้รับกระแสเงินสดกว่า 1,400 ล้านบาทเข้าบริษัทฯหลังจากได้บรรลุข้อตกลงกระบวนการขายเงินลงทุนและโอนหุ้นดีล 2 โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ให้กับ PROUD เป็นอันเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ พร้อมบันทึกเป็นกําไรพิเศษจาก PROUD เข้ามาทันที ซึ่งจะเป็นการเสริมผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัทฯที่แข็งแกร่งขึ้น