จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : CH ขยายตลาด “ผลไม้แปรรูป” บุกทำเล “นักท่องเที่ยวต่างชาติ”
21 สิงหาคม 2566
ผลไม้แปรรูปของไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลดีต่อยอดขาย บมจ.เจริญอุตสาหกรรม (CH) ที่ผู้บริหารประกาศกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ขยายตลาดเน้นทำเลนักท่องเที่ยว มั่นใจผลงานปีนี้โตตามเป้า
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ตลาดอาหารว่างของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป เช่น มะม่วงอบแห้ง ทุเรียนฟรีซดราย ลำไยอบแห้ง พุทราสอดไส้ เป็นต้น ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคจีนอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนได้หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้ต้องการผลไม้แปรรูปที่มีคุณภาพสูง ไฮเอนด์และมีนวัตกรรมเพิ่มขึ้น
โดยมูลค่าตลาดผลไม้แปรรูปของจีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561-2565 เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 30.7 ต่อปี โดยในปี พ.ศ. 2565 มูลค่าตลาดผลไม้แปรรูปมีมูลค่ารวม 110,200 ล้านหยวน (ประมาณ 540,000 ล้านบาท) และคาดว่าในปี 2566 จะมีมูลค่าถึง 146,200 ล้านหยวน (ประมาณ 716,000 ล้านบาท)
ตลาดผลไม้แปรรูปได้รับการตอบรับและเป็นที่รู้จักอย่างดีในตลาดจีน ส่งผลดีต่อยอดขายของ บมจ.เจริญอุตสาหกรรม (CH) ที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป และขนมเพื่อสุขภาพ ที่ทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 “ศักดา ศรีแสงนาม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ บริษัทฯได้วางกลยุทธ์รุกขยายฐานรายได้จากกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการเดินหน้าการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการเปิดร้าน KIOSK ใน SIAM PREMIUM OUTLET และ CENTRAL VILLAGE สุวรรณภูมิ เมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างทดลองเครื่อง Vending Machine 2 แห่ง ใน ท่ามหาราช และ ICONSIAM ซึ่งเป็นโซนทำเลหลักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ อย่างเช่น Bangkok Tasty ขนมไทยอบกรอบ 5 รสชาติ ประกอบด้วย 1.ข้าวเหนียวมะม่วง 2.ข้าวเหนียวทุเรียน 3.ข้าวเหนียวถั่วดำ 4.กล้วยบวชชี 5.เผือกบวด หรือ ผลไม้รวมอบแห้งเคลือบช็อคโกแลต อาทิ ส้ม มะม่วง กล้วย เป็นต้น คาดว่าจะสามารถนำเข้าขายในร้านสะดวกซื้อชั้นนำ และ/หรือ Hypermarket ต่างๆ ภายในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยเจาะจงในสาขาที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก
บริษัทคาดว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป อีกทั้งคาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากแผนการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนการนำผลิตภัณฑ์ออกบูธในงานแสดงสินค้า และเข้าร่วมงานประกวดผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ พร้อมทั้งเดินสายพบปะลูกค้าในแถบสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และกระชับความสัมพันธ์ฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทออกผลิตภัณฑ์ ผลไม้เคลือบช็อกโกแลต (Chocolate-covered Dried Mixed Fruits)ภายใต้แบรนด์ Bangkok Tasty by Chin Hua yอาทิ ส้ม มะม่วง กล้วย โดย CH Innovation Center ได้คิดค้นพัฒนาสินค้า เกรดพรีเมี่ยม อาทิ ทำจากผลไม้แท้ (Real fruits/ No puree)และทำจากDark Chocolate เกรดพรีเมี่ยม ปราศจากสารแต่งกลิ่นสังเคราะห์และสารแต่งสี Gluten-free, Non-GMO เพื่อเพิ่มมูลค่าผลไม้ไทยที่เป็นtop of mindในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการขาย 496.43 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ประมาณ 86.90% ของรายได้จากการขาย ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีรายได้จากกลุ่มปลากระป๋องเพิ่มขึ้น จากสินค้าส่งออกไปแถบทวีปเอเชีย เนื่องจากบางประเทศมีนโยบายการผ่อนปรนข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงาน 28.72 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.65 ล้านบาท
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ตลาดอาหารว่างของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป เช่น มะม่วงอบแห้ง ทุเรียนฟรีซดราย ลำไยอบแห้ง พุทราสอดไส้ เป็นต้น ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคจีนอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนได้หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้ต้องการผลไม้แปรรูปที่มีคุณภาพสูง ไฮเอนด์และมีนวัตกรรมเพิ่มขึ้น
โดยมูลค่าตลาดผลไม้แปรรูปของจีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561-2565 เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 30.7 ต่อปี โดยในปี พ.ศ. 2565 มูลค่าตลาดผลไม้แปรรูปมีมูลค่ารวม 110,200 ล้านหยวน (ประมาณ 540,000 ล้านบาท) และคาดว่าในปี 2566 จะมีมูลค่าถึง 146,200 ล้านหยวน (ประมาณ 716,000 ล้านบาท)
ตลาดผลไม้แปรรูปได้รับการตอบรับและเป็นที่รู้จักอย่างดีในตลาดจีน ส่งผลดีต่อยอดขายของ บมจ.เจริญอุตสาหกรรม (CH) ที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป และขนมเพื่อสุขภาพ ที่ทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 “ศักดา ศรีแสงนาม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ บริษัทฯได้วางกลยุทธ์รุกขยายฐานรายได้จากกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการเดินหน้าการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการเปิดร้าน KIOSK ใน SIAM PREMIUM OUTLET และ CENTRAL VILLAGE สุวรรณภูมิ เมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างทดลองเครื่อง Vending Machine 2 แห่ง ใน ท่ามหาราช และ ICONSIAM ซึ่งเป็นโซนทำเลหลักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ อย่างเช่น Bangkok Tasty ขนมไทยอบกรอบ 5 รสชาติ ประกอบด้วย 1.ข้าวเหนียวมะม่วง 2.ข้าวเหนียวทุเรียน 3.ข้าวเหนียวถั่วดำ 4.กล้วยบวชชี 5.เผือกบวด หรือ ผลไม้รวมอบแห้งเคลือบช็อคโกแลต อาทิ ส้ม มะม่วง กล้วย เป็นต้น คาดว่าจะสามารถนำเข้าขายในร้านสะดวกซื้อชั้นนำ และ/หรือ Hypermarket ต่างๆ ภายในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยเจาะจงในสาขาที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก
บริษัทคาดว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป อีกทั้งคาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากแผนการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนการนำผลิตภัณฑ์ออกบูธในงานแสดงสินค้า และเข้าร่วมงานประกวดผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ พร้อมทั้งเดินสายพบปะลูกค้าในแถบสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และกระชับความสัมพันธ์ฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทออกผลิตภัณฑ์ ผลไม้เคลือบช็อกโกแลต (Chocolate-covered Dried Mixed Fruits)ภายใต้แบรนด์ Bangkok Tasty by Chin Hua yอาทิ ส้ม มะม่วง กล้วย โดย CH Innovation Center ได้คิดค้นพัฒนาสินค้า เกรดพรีเมี่ยม อาทิ ทำจากผลไม้แท้ (Real fruits/ No puree)และทำจากDark Chocolate เกรดพรีเมี่ยม ปราศจากสารแต่งกลิ่นสังเคราะห์และสารแต่งสี Gluten-free, Non-GMO เพื่อเพิ่มมูลค่าผลไม้ไทยที่เป็นtop of mindในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการขาย 496.43 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ประมาณ 86.90% ของรายได้จากการขาย ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีรายได้จากกลุ่มปลากระป๋องเพิ่มขึ้น จากสินค้าส่งออกไปแถบทวีปเอเชีย เนื่องจากบางประเทศมีนโยบายการผ่อนปรนข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงาน 28.72 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.65 ล้านบาท