Talk of The Town
TEGH รุกธุรกิจพลังงานทดแทน-กากอินทรีย์ พร้อมก้าวสู่องค์กรความเป็นกลางทางคาร์บอน
21 สิงหาคม 2566
บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) เปิดกลยุทธ์ในช่วงที่เหลือของปี มุ่งบริหารจัดการด้านต้นทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พร้อมขยายธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์มากขึ้น เพื่อสร้างฐาน Recurring Income แย้มโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ระยะที่ 1 ทดสอบระบบแล้วพร้อมตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 73 และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net zero) ต่อไป
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า แผนและกลยุทธ์ในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นบริหารจัดการด้านต้นทุนวัตถุดิบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการขยายธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์มากขึ้น เป็นการสร้างฐานรายได้ประจำที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income) โดยความคืบหน้าโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ระยะที่ 1 ทดสอบระบบแล้ว คาดว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/66 นี้ ทำให้มีรายได้จากโครงการนี้เข้ามาเพิ่มขึ้น
ส่วนโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ระยะที่ 2 นั้น คาดว่าจะเริ่ม COD ได้ในช่วงไตรมาส 4/67 รวม 2 โครงการ จะสามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 700 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 70,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่วนขยายนี้ มีลูกค้ารองรับเกือบทั้งหมดแล้วนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจาก 43 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 64 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายในปี 2566 นี้ พร้อมรองรับความต้องการการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น และยังเป็นพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั้งภายในและนอกกลุ่มบริษัทฯ อีกด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการอยู่ที่ 3,024.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.55 ล้านบาท จากผลกระทบราคาขายที่ลดลง และต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น มีผลทำให้ Spread แคบลง
กรรมการผู้จัดการ TEGH กล่าวอีกว่า แนวโน้มปริมาณขายยางแท่งในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 200,000 ตัน โดยครึ่งปีแรกขายไปแล้ว 98,933 ตัน โครงการขยายกำลังการผลิตต่างๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานมีความคืบหน้าตามแผน และบริษัทฯได้พยายามมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตต่อหน่วยให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้
นอกจากการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล โดยบริษัทฯ ได้ทำแผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ์เป็นศูนย์ต่อไป โดยบูรณาการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีการบริหารจัดการด้านพลังงาน น้ำ และของเสีย รวมถึงมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการต่าง ๆ
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า แผนและกลยุทธ์ในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นบริหารจัดการด้านต้นทุนวัตถุดิบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการขยายธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์มากขึ้น เป็นการสร้างฐานรายได้ประจำที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income) โดยความคืบหน้าโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ระยะที่ 1 ทดสอบระบบแล้ว คาดว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/66 นี้ ทำให้มีรายได้จากโครงการนี้เข้ามาเพิ่มขึ้น
ส่วนโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ โซน 3 ระยะที่ 2 นั้น คาดว่าจะเริ่ม COD ได้ในช่วงไตรมาส 4/67 รวม 2 โครงการ จะสามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 700 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 70,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่วนขยายนี้ มีลูกค้ารองรับเกือบทั้งหมดแล้วนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจาก 43 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 64 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายในปี 2566 นี้ พร้อมรองรับความต้องการการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น และยังเป็นพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั้งภายในและนอกกลุ่มบริษัทฯ อีกด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการอยู่ที่ 3,024.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.55 ล้านบาท จากผลกระทบราคาขายที่ลดลง และต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น มีผลทำให้ Spread แคบลง
กรรมการผู้จัดการ TEGH กล่าวอีกว่า แนวโน้มปริมาณขายยางแท่งในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 200,000 ตัน โดยครึ่งปีแรกขายไปแล้ว 98,933 ตัน โครงการขยายกำลังการผลิตต่างๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานมีความคืบหน้าตามแผน และบริษัทฯได้พยายามมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตต่อหน่วยให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้
นอกจากการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล โดยบริษัทฯ ได้ทำแผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ์เป็นศูนย์ต่อไป โดยบูรณาการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีการบริหารจัดการด้านพลังงาน น้ำ และของเสีย รวมถึงมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการต่าง ๆ