จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : WP รับอานิสงส์ “Street Food-นักท่องเที่ยวพุ่ง” ดันรายได้ปี 66 โตไม่ต่ำกว่า 1.7 หมื่นลบ.
24 สิงหาคม 2566
ความต้องการใช้ก๊าซLPG พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ยอดขายร้านอาหาร และ Street Food ดันรายได้ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ผู้จำหน่ายก๊าซ LPG ปี66 โตไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
![รายงานพิเศษ WP รับอานิสงส์ “Street Food-นักท่องเที่.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2023/August/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%20WP%20%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C%20%E2%80%9CStreet%20Food-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88.jpg)
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยว่า ททท. ยังคงเป้านักท่องเที่ยวปี 66 ไว้ที่ 25-30 ล้านคน โดยช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวไทยแล้ว 15,391,104 คน เติบโตขึ้นกว่า 400% เมื่อเทียบกับปี 65 สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวถึง 663,862 ล้านบาท โดยเป็นค่าที่พัก 29% และค่าใช้จ่ายด้านอาหาร 20%
ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งทำวันนี้ คือ การสร้างความประทับใจใหม่ ด้วยการนำเสนอจุดขายที่ดึงนักท่องเที่ยวเดิมกลับมาและดึงนักท่องเที่ยวใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งโรงแรมที่พักส่วนหนึ่ง ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมาก เพราะมีทั้งความสะดวก บริการที่ดีเยี่ยม มีความสวยงามในหลายรูปแบบให้เลือก บนมาตรฐานที่ดี หลายแห่งยังได้รับรางวัลระดับโลก และมีระดับราคาที่แข่งขันได้
ส่วนกลุ่มอาหาร ร้านอาหาร และ Street Food ก็เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจาก อาหารไทยโดดเด่นจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ จึงต้องผลักดันให้เป็น Soft Power ที่สร้างมูลค่า เป็นอาวุธใหม่ทางการท่องเที่ยว โดยสามารถพัฒนาไปได้ทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) และการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)
การประกอบอาหารพลังงานที่จำเป็นต่อธุรกิจย่อมหนีไม่พ้นก๊าซ LPG สะท้อนจากผลงาน บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ในฐานะผู้นำในธุรกิจจัดหา จำหน่ายและขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas : LPG)
ซึ่ง “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP ระบุผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566) บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 64.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 8,790.54 ล้านบาทรายได้อื่นๆ เท่ากับ 110.85 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 344.38 ล้านบาท
เป็นผลจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Commercialปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาก๊าซLPG ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง165แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น
นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งปัจจุบันได้เซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว10 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี2566
สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังเชื่อว่า ยังขยายตัวอยู่ในทิศทางดี โดยการเติบโตยังคงมาจากความต้องการใช้ก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจพลังงาน ทำให้มั่นใจยอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตัน ส่วนรายได้รวมคาดว่าเติบโตไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมก๊าซ LPG ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซLPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ที่สำคัญสามารถบริหารการจัดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของกำไรและรายได้ครึ่งปีแรกเติบโตอยู่ในทิศทางบวก ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่ตั้งไว้
![รายงานพิเศษ WP รับอานิสงส์ “Street Food-นักท่องเที่.jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2023/August/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%20WP%20%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C%20%E2%80%9CStreet%20Food-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88.jpg)
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยว่า ททท. ยังคงเป้านักท่องเที่ยวปี 66 ไว้ที่ 25-30 ล้านคน โดยช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวไทยแล้ว 15,391,104 คน เติบโตขึ้นกว่า 400% เมื่อเทียบกับปี 65 สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวถึง 663,862 ล้านบาท โดยเป็นค่าที่พัก 29% และค่าใช้จ่ายด้านอาหาร 20%
ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งทำวันนี้ คือ การสร้างความประทับใจใหม่ ด้วยการนำเสนอจุดขายที่ดึงนักท่องเที่ยวเดิมกลับมาและดึงนักท่องเที่ยวใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งโรงแรมที่พักส่วนหนึ่ง ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมาก เพราะมีทั้งความสะดวก บริการที่ดีเยี่ยม มีความสวยงามในหลายรูปแบบให้เลือก บนมาตรฐานที่ดี หลายแห่งยังได้รับรางวัลระดับโลก และมีระดับราคาที่แข่งขันได้
ส่วนกลุ่มอาหาร ร้านอาหาร และ Street Food ก็เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจาก อาหารไทยโดดเด่นจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ จึงต้องผลักดันให้เป็น Soft Power ที่สร้างมูลค่า เป็นอาวุธใหม่ทางการท่องเที่ยว โดยสามารถพัฒนาไปได้ทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) และการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)
การประกอบอาหารพลังงานที่จำเป็นต่อธุรกิจย่อมหนีไม่พ้นก๊าซ LPG สะท้อนจากผลงาน บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ในฐานะผู้นำในธุรกิจจัดหา จำหน่ายและขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas : LPG)
ซึ่ง “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP ระบุผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566) บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 64.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 8,790.54 ล้านบาทรายได้อื่นๆ เท่ากับ 110.85 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 344.38 ล้านบาท
เป็นผลจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Commercialปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาก๊าซLPG ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง165แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น
นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งปัจจุบันได้เซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว10 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี2566
สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังเชื่อว่า ยังขยายตัวอยู่ในทิศทางดี โดยการเติบโตยังคงมาจากความต้องการใช้ก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจพลังงาน ทำให้มั่นใจยอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตัน ส่วนรายได้รวมคาดว่าเติบโตไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมก๊าซ LPG ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซLPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ที่สำคัญสามารถบริหารการจัดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของกำไรและรายได้ครึ่งปีแรกเติบโตอยู่ในทิศทางบวก ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่ตั้งไว้