จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : SUPER เดินหน้าผลิตไฟจากพลังงานสะอาด สร้างกำไรเติบโตแข็งแกร่ง – ยั่งยืน
25 สิงหาคม 2566
บมจ. ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เดินหน้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เชื่อแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติของเวียดนาม หนุนพอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัวใน 2 ปีข้างหน้า
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามได้ ประกาศแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติฉบับที่ 8 (PDP 8) ปี 2564-2573 โดยมีเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าขยับเพิ่มเป็น 150,489 เมกะวัตต์ในปี 2573 โดยแผน PDP 8 ฉบับใหม่นี้ให้ความสำคัญการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้สอดรับกับการเข้าสู่ Net Zero ในปี 2593 ของเวียดนาม
ทั้งนี้ แผน PDP 8 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากประเภทเชื้อเพลิงถ่านหิน 30,127 เมกะวัตต์, LNG to Power 22,400 เมกะวัตต์, ก๊าซฯ ในประเทศ 14,930 เมกะวัตต์, พลังงานน้ำ (Hydro Power) 29,346 เมกะวัตต์, พลังงานลมบนบก 21,800 เมกะวัตต์, พลังงานลมนอกชายฝั่ง 6,000 เมกะวัตต์, พลังงานแสงอาทิตย์ 12,836 เมกะวัตต์, นำเข้าไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์, Hydroelectricity 2,400 เมกะวัตต์, แบตเตอรี่สำรอง 300 เมกะวัตต์, ไบโอแมสและขยะ 2,270 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าโคเจน 2,700 เมกะวัตต์ และพลังงานอื่นๆ ที่เหลือ
ซึ่งเบื้องต้นเวียดนามวางเป้าหมายในปี 2593 เวียดนามจะไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินอีกต่อไป และโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯในประเทศและ LNG จะเปลี่ยนเป็นไฮโดรเจนด้วย
แผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติฉบับที่ 8 ของเวียดนามที่ได้ประกาศออกมา จะสนับสนุนการเติบโตของภาคเอกชนไทยที่ได้เข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดในเวียนดนาม ซึ่งรวมถึง บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) โดย นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจแนวโน้มภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD)ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม Soc Trang กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล กำลังการผลิต14เมกะวัตต์ ในช่วงปลายไตรมาส3 ถึงต้นไตรมาส4ของปีนี้
โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ระดับ 10,000 11,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีก่อน ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาส เพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆในประเทศต่างๆ รวมถึงการเข้าลงทุนในเวียดนามตามแผนพัฒนาพลังงานPDP8 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัวในอีก 2 ปีข้างหน้า
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 4,090.24 ล้านบาท หรือ EBITDA marginในอัตรา80 %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประมาณ 3,900 ล้านบาท โดยในไตรมาส2 /2566 EBITDA ที่ 1,886.07ล้านบาท
ทั้งนี้การเติบโตของ EBITDA มาจากบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการที่ลงทุน จากโครงการโรงไฟฟ้าSPP Hybrid ขนาดกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ ผลิตและขายไฟฟ้าได้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อต้นปี 2566
และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ ของบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด หรือNKY ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือCODให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีปริมาณซื้อขายไฟตามสัญญา (PPA)จำนวน 6 เมกะวัตต์ เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแผนการลงทุนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ EBITDA margin 80% เป็นการรักษาระดับการทำกำไรอย่างต่อเนื่องในช่วง5ปี ที่ผ่านมา (ปี2560 2565 ) สะท้อนว่าถึงบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพ มีการเติบโตมั่นคง มีรายรับจากโครงการโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง สนับสนุนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามได้ ประกาศแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติฉบับที่ 8 (PDP 8) ปี 2564-2573 โดยมีเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าขยับเพิ่มเป็น 150,489 เมกะวัตต์ในปี 2573 โดยแผน PDP 8 ฉบับใหม่นี้ให้ความสำคัญการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้สอดรับกับการเข้าสู่ Net Zero ในปี 2593 ของเวียดนาม
ทั้งนี้ แผน PDP 8 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากประเภทเชื้อเพลิงถ่านหิน 30,127 เมกะวัตต์, LNG to Power 22,400 เมกะวัตต์, ก๊าซฯ ในประเทศ 14,930 เมกะวัตต์, พลังงานน้ำ (Hydro Power) 29,346 เมกะวัตต์, พลังงานลมบนบก 21,800 เมกะวัตต์, พลังงานลมนอกชายฝั่ง 6,000 เมกะวัตต์, พลังงานแสงอาทิตย์ 12,836 เมกะวัตต์, นำเข้าไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์, Hydroelectricity 2,400 เมกะวัตต์, แบตเตอรี่สำรอง 300 เมกะวัตต์, ไบโอแมสและขยะ 2,270 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าโคเจน 2,700 เมกะวัตต์ และพลังงานอื่นๆ ที่เหลือ
ซึ่งเบื้องต้นเวียดนามวางเป้าหมายในปี 2593 เวียดนามจะไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินอีกต่อไป และโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯในประเทศและ LNG จะเปลี่ยนเป็นไฮโดรเจนด้วย
แผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติฉบับที่ 8 ของเวียดนามที่ได้ประกาศออกมา จะสนับสนุนการเติบโตของภาคเอกชนไทยที่ได้เข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดในเวียนดนาม ซึ่งรวมถึง บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) โดย นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจแนวโน้มภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD)ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม Soc Trang กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล กำลังการผลิต14เมกะวัตต์ ในช่วงปลายไตรมาส3 ถึงต้นไตรมาส4ของปีนี้
โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ระดับ 10,000 11,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีก่อน ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาส เพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆในประเทศต่างๆ รวมถึงการเข้าลงทุนในเวียดนามตามแผนพัฒนาพลังงานPDP8 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัวในอีก 2 ปีข้างหน้า
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 4,090.24 ล้านบาท หรือ EBITDA marginในอัตรา80 %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประมาณ 3,900 ล้านบาท โดยในไตรมาส2 /2566 EBITDA ที่ 1,886.07ล้านบาท
ทั้งนี้การเติบโตของ EBITDA มาจากบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการที่ลงทุน จากโครงการโรงไฟฟ้าSPP Hybrid ขนาดกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ ผลิตและขายไฟฟ้าได้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อต้นปี 2566
และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะ ของบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด หรือNKY ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือCODให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีปริมาณซื้อขายไฟตามสัญญา (PPA)จำนวน 6 เมกะวัตต์ เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแผนการลงทุนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ EBITDA margin 80% เป็นการรักษาระดับการทำกำไรอย่างต่อเนื่องในช่วง5ปี ที่ผ่านมา (ปี2560 2565 ) สะท้อนว่าถึงบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่มีเสถียรภาพ มีการเติบโตมั่นคง มีรายรับจากโครงการโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง สนับสนุนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต