เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 30-08-23
30-08-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***รู้ก่อน-รวยก่อน รู้ก่อน-ได้เปรียบ อืมมมม!!! อันนี้น่าสนใจนะ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องมาต่อและมองให้เห็นก่อนคนอื่นคือการจับเทรนด์การลงทุนว่าหุ้นกลุ่มไหนจะมานะ??? สำหรับภาคเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเป็นลำดับต้นๆ จากรัฐบาลใหม่ คงหนี้ไม่พันกลุ่มท่องเที่ยว ในฐานะที่เป็นภาคอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย อีกทั้งกำลังจะกลับเข้าสู่ช่วง High Season
***มาตรการเบื้องต้นที่คาดว่าจะเห็น คือมาตรการ Free Visa สำหรับนักท่องเที่ยวจีน – อินเดีย, การกระตุ้นให้เพิ่มเที่ยวบิน รวมถึง การเตรียมความพร้อมในการเพิ่มกำลังการรองรรับนักท่องเที่ยวของสนามบิน ซึ่งแนวทางดังกล่าวน่าจะสร้าง Sentiment เชิงบวกให้กับหุ้นกลุ่มเดินทางทาง ท่องเที่ยว โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยว 2 ประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนราว 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที้งหมดที่เข้ามาในประเทศไทย ขณะที่จีนมี โอกาสเร่งตัวขึ้นแรงกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเตรียมตัวรับ golden week ของจีนในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้
***กูรูหุ้นมองถึงเรื่องนี้ว่าจะช่วยจูงใจนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไทย (ต.ค. เป็นช่วง Golden week ของจีน) โดยประเมินผลบวก ต่อหุ้นในกลุ่มฯ เรียงตามสัดส่วนรายได้ในไทย
-AOT ในฐานะประตูสู่ประเทศไทย
-ERW สัดส่วนราว 90% มาจากโรงแรมไทย
-CENTEL สัดส่วน 82% ของรายได้ โรงแรมงวดครึ่งปีแรกอยู่ในไทย (รายได้ร้านอาหาร : โรงแรม ที่ 58% : 42%)
-MINT สัดส่วนรายได้ราว 50% มาจากใน EU
***นอกจากนี้ ประเมินว่าแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นช่วงไตรมาส 4/66 คาดช่วยเพิ่มปริมาณ Traffic ในศูนย์การค้า และเป็นแรงส่งทางอ้อมต่อกำลังซื้อในประเทศ บวกต่อ หุ้นที่เกี่ยวข้อง อย่าง CPN และกลุ่มร้านอาหารที่อยู่ในศูนย์การค้า เช่น CENTEL, MINT และ M
***โดยสรุปสำหรับกลยุทธ์การลงทุน ในธีมกระตุ้นภาคท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ เน้นหุ้นที่มีโครงสร้าง รายได้ในไทยเป็นหลัก นำโดย ERW -AOT- CENTEL ส่วน MINT แม้สัดส่วนรายได้ในไทยต่ำกว่ากลุ่มฯ แต่ชอบในการกระจายตัวของธุรกิจใน หลายประเทศ ประกอบกับราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมายังปรับขึ้นช้ากว่ากลุ่มฯ น่าจะสามารถ catch-up ตามหุ้นในกลุ่มฯ ได้ รวมไปถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมอย่าง CPN และร้านอาหาร อาทิ M ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ราว 698 สาขา มีลุ้นรับประโยชน์จากนโยบาย Digital wallet ในปีหน้า
***แต่ก้อมีหุ้นดีๆ ที่ไม่ต้องรอกระแสอย่าง TPS ที่เจ๊แนะนำเก็บเอาไว้ในอ้อมอก-อ้อมใจของแฟนคลับด้วยนะ!!! มีรายงานร้อนๆ เข้ามาว่าล่าสุด มีนักลงทุน VI ตบเท้าเข้าเยี่ยมชมกิจการ พร้อมร่วมรับฟังแผนธุรกิจในอนาคตกันแน่นเอี๊ยดดด! แถมยังมีรายใหญ่ให้ความสนใจต่อคิวขอข้อมูลอีกเพียบ! งานนี้บิ๊กบอสคนเก่ง “ขุ่นพี่บุญสม” บอกว่า..ตอนนี้อาวุธครบมือ ทั้งประสบการณ์ความรู้ ความเชี่ยวชาญของทีมงาน และฐานทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมลุยประมูลงานขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อมาเติม Backlog ที่ตุนไว้กว่า 2,200 ล้านบาท รอรับรู้รายได้กันแบบยาวๆ ตอนนี้ TPS ขึ้นแท่นหุ้นพื้นฐานแน่นปึ้ก! น่าลงทุนและต้องมีติดพอร์ตไว้เลยล่ะ!!!!
***นี่ก้อเริ่ดดดดดดดด แฟนคลับ SUPER เตรียมตัวเลยจ๊าาาาา มารับฟังข้อมูลดีๆในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) นำโดยบิ๊กบอส "จอมทรัพย์ โลจายะ " ควงคู่มากับ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน "กุลชลี นันทสุขเกษม " เตรียมข้อมูลเด็ดอัพเดทแผนธุรกิจปัจจุบัน และอนาคตให้ฟังกันอย่างจุใจ พร้อมกับตอบทุกคำถามของนักลงทุน แถม ฝากกระซิบว่า โครงการ SPP Hybrid กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ออร่าจับสุดๆ อย่าลืมมาติดตามกันได้ในวันที่ 1 กันยายน 2566 เริ่มเวลา 9.15 น. ได้ทาง www.set.or.th/oppday หรือ รับชมการถ่ายทอดสดและย้อนหลังผ่าน SET Opportunity Day - Home | Facebook งานนี้ห้ามพลาด!!!
***ปิดท้ายวันนี้ขอแสดงความยินดีกับ PJW ล่าสุด!!! ถูกดึงเข้าคำนวณดัชนี FTSE Micro Cap ซึ่งเป็นดัชนีที่นักลงทุนสถาบัน และต่างชาติใช้อ้างอิงให้น้ำหนักในการลงทุน มีผล 15 ก.ย.66 นี้ ส่วนเรื่องผลประกอบการตอนนี้เข้าสู่โหมด “เทิร์นอะราวด์” ตามนัด ผลงาน Q2/66 กำไรสุทธิ 41.66 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรเท่ากับ 4.6% เมื่อเทียบกับอัตรากำไรงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 1.2% และบริษัทมีอัตราการเติบโตเป็น 250% เมื่อเทียบงวดเดียวกันกับปีก่อน ออเดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์พุ่งกระฉูด ..ใครยังไม่มีหุ้นติดพอร์ต โปรดพิจารณาด่วนนนนน จะได้ไม่พลาดโอกาสเฮงๆรวยๆ!!!!
30-08-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***รู้ก่อน-รวยก่อน รู้ก่อน-ได้เปรียบ อืมมมม!!! อันนี้น่าสนใจนะ ตอนนี้สิ่งที่เราต้องมาต่อและมองให้เห็นก่อนคนอื่นคือการจับเทรนด์การลงทุนว่าหุ้นกลุ่มไหนจะมานะ??? สำหรับภาคเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเป็นลำดับต้นๆ จากรัฐบาลใหม่ คงหนี้ไม่พันกลุ่มท่องเที่ยว ในฐานะที่เป็นภาคอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย อีกทั้งกำลังจะกลับเข้าสู่ช่วง High Season
***มาตรการเบื้องต้นที่คาดว่าจะเห็น คือมาตรการ Free Visa สำหรับนักท่องเที่ยวจีน – อินเดีย, การกระตุ้นให้เพิ่มเที่ยวบิน รวมถึง การเตรียมความพร้อมในการเพิ่มกำลังการรองรรับนักท่องเที่ยวของสนามบิน ซึ่งแนวทางดังกล่าวน่าจะสร้าง Sentiment เชิงบวกให้กับหุ้นกลุ่มเดินทางทาง ท่องเที่ยว โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยว 2 ประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนราว 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที้งหมดที่เข้ามาในประเทศไทย ขณะที่จีนมี โอกาสเร่งตัวขึ้นแรงกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเตรียมตัวรับ golden week ของจีนในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้
***กูรูหุ้นมองถึงเรื่องนี้ว่าจะช่วยจูงใจนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไทย (ต.ค. เป็นช่วง Golden week ของจีน) โดยประเมินผลบวก ต่อหุ้นในกลุ่มฯ เรียงตามสัดส่วนรายได้ในไทย
-AOT ในฐานะประตูสู่ประเทศไทย
-ERW สัดส่วนราว 90% มาจากโรงแรมไทย
-CENTEL สัดส่วน 82% ของรายได้ โรงแรมงวดครึ่งปีแรกอยู่ในไทย (รายได้ร้านอาหาร : โรงแรม ที่ 58% : 42%)
-MINT สัดส่วนรายได้ราว 50% มาจากใน EU
***นอกจากนี้ ประเมินว่าแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นช่วงไตรมาส 4/66 คาดช่วยเพิ่มปริมาณ Traffic ในศูนย์การค้า และเป็นแรงส่งทางอ้อมต่อกำลังซื้อในประเทศ บวกต่อ หุ้นที่เกี่ยวข้อง อย่าง CPN และกลุ่มร้านอาหารที่อยู่ในศูนย์การค้า เช่น CENTEL, MINT และ M
***โดยสรุปสำหรับกลยุทธ์การลงทุน ในธีมกระตุ้นภาคท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ เน้นหุ้นที่มีโครงสร้าง รายได้ในไทยเป็นหลัก นำโดย ERW -AOT- CENTEL ส่วน MINT แม้สัดส่วนรายได้ในไทยต่ำกว่ากลุ่มฯ แต่ชอบในการกระจายตัวของธุรกิจใน หลายประเทศ ประกอบกับราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมายังปรับขึ้นช้ากว่ากลุ่มฯ น่าจะสามารถ catch-up ตามหุ้นในกลุ่มฯ ได้ รวมไปถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมอย่าง CPN และร้านอาหาร อาทิ M ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ราว 698 สาขา มีลุ้นรับประโยชน์จากนโยบาย Digital wallet ในปีหน้า
***แต่ก้อมีหุ้นดีๆ ที่ไม่ต้องรอกระแสอย่าง TPS ที่เจ๊แนะนำเก็บเอาไว้ในอ้อมอก-อ้อมใจของแฟนคลับด้วยนะ!!! มีรายงานร้อนๆ เข้ามาว่าล่าสุด มีนักลงทุน VI ตบเท้าเข้าเยี่ยมชมกิจการ พร้อมร่วมรับฟังแผนธุรกิจในอนาคตกันแน่นเอี๊ยดดด! แถมยังมีรายใหญ่ให้ความสนใจต่อคิวขอข้อมูลอีกเพียบ! งานนี้บิ๊กบอสคนเก่ง “ขุ่นพี่บุญสม” บอกว่า..ตอนนี้อาวุธครบมือ ทั้งประสบการณ์ความรู้ ความเชี่ยวชาญของทีมงาน และฐานทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมลุยประมูลงานขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อมาเติม Backlog ที่ตุนไว้กว่า 2,200 ล้านบาท รอรับรู้รายได้กันแบบยาวๆ ตอนนี้ TPS ขึ้นแท่นหุ้นพื้นฐานแน่นปึ้ก! น่าลงทุนและต้องมีติดพอร์ตไว้เลยล่ะ!!!!
***นี่ก้อเริ่ดดดดดดดด แฟนคลับ SUPER เตรียมตัวเลยจ๊าาาาา มารับฟังข้อมูลดีๆในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) นำโดยบิ๊กบอส "จอมทรัพย์ โลจายะ " ควงคู่มากับ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน "กุลชลี นันทสุขเกษม " เตรียมข้อมูลเด็ดอัพเดทแผนธุรกิจปัจจุบัน และอนาคตให้ฟังกันอย่างจุใจ พร้อมกับตอบทุกคำถามของนักลงทุน แถม ฝากกระซิบว่า โครงการ SPP Hybrid กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ออร่าจับสุดๆ อย่าลืมมาติดตามกันได้ในวันที่ 1 กันยายน 2566 เริ่มเวลา 9.15 น. ได้ทาง www.set.or.th/oppday หรือ รับชมการถ่ายทอดสดและย้อนหลังผ่าน SET Opportunity Day - Home | Facebook งานนี้ห้ามพลาด!!!
***ปิดท้ายวันนี้ขอแสดงความยินดีกับ PJW ล่าสุด!!! ถูกดึงเข้าคำนวณดัชนี FTSE Micro Cap ซึ่งเป็นดัชนีที่นักลงทุนสถาบัน และต่างชาติใช้อ้างอิงให้น้ำหนักในการลงทุน มีผล 15 ก.ย.66 นี้ ส่วนเรื่องผลประกอบการตอนนี้เข้าสู่โหมด “เทิร์นอะราวด์” ตามนัด ผลงาน Q2/66 กำไรสุทธิ 41.66 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรเท่ากับ 4.6% เมื่อเทียบกับอัตรากำไรงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 1.2% และบริษัทมีอัตราการเติบโตเป็น 250% เมื่อเทียบงวดเดียวกันกับปีก่อน ออเดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์พุ่งกระฉูด ..ใครยังไม่มีหุ้นติดพอร์ต โปรดพิจารณาด่วนนนนน จะได้ไม่พลาดโอกาสเฮงๆรวยๆ!!!!