by.พูเมซ่า
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม 2566 ดัชนีเริ่มฟื้นตัวหลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และอยู่ระหว่างการรอดูความชัดเจนของคณะรัฐมนตรีว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินว่า SET Index สลับกลุ่มขึ้นโดยมีเป้าหมาย sideway up ที่ 1,580-1,600 จุด พลังงานและท่องเที่ยวที่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังปรับขึ้นได้ดีในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ทั้งนี้เรามองหุ้นจะเริ่มเกิดการหมุนกลุ่ม (Rotation) ซึ่งหุ้นที่มี seasonality ของผลประกอบการที่ดีในครึ่งปีหลังและได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่น่าจะมีโอกาสผ่านจุดสูงสุด ประกอบกับปัจจัยในประเทศทั้งการให้วีซ่าระยะยาวกับต่างชาติ และโอกาสได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรามองกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีโอกาสเริ่มเคลื่อนไหวได้ดี โดยเราชอบ AP, SPALI, CPN, ORI
ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศไทย ในส่วนพอร์ตลงทุนหุ้นของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) พบว่าในเดือนสิงหาคม 2566 หุ้นในพอร์ตที่สปส.ถือลงทุนมีการขึ้นเครื่องหมาย XD หรือสิทธิที่ไม่ได้รับเงินปันผลงวดครึ่งแรกของปี 2566 หลังขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว พบว่า มีหุ้นขนาดใหญ่ 7 หุ้นที่ขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว ประกอบด้วย
หุ้น |
จำนวนถือ(หุ้น) |
อัตราเงินปันผลต่อหุ้น |
มูลค่าเงินปันผล(บาท) |
ADVANC |
49,924,500 |
4 |
199,698,000 |
PTTEP |
25,135,877 |
4.25 |
106,827,477 |
SCC |
52,063,050 |
2.5 |
130,157,625 |
SCGP |
50,064,586 |
0.25 |
12,516,147 |
TU |
123,727,608 |
0.3 |
37,118,282 |
BTS |
418,160,400 |
0.16 |
66,905,664 |
LPN |
66,616,600 |
0.08 |
5,329,328 |
|
|
|
|
รวม |
|
|
558,552,523 |
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า หุ้นADVANC เป็นหุ้นที่ให้เงินปันผลมากที่สุด และหากนับรวมกันทั้ง 7 หุ้นที่จ่ายปันผลสปส.จะได้รับเงินรวมกว่า 558 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในพอร์ตการลงทุนของสปส.ยังมีหุ้นและกองทุนที่จะจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีกจำนวนมาก ดังนั้นในแต่ละปี สปส.จะได้รับเงินสดจากการจ่ายเงินปันผลสูงไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากนี้หากพิจารณาพอร์ตลงทุนของสปส.ในส่วนการถือครองหุ้น โดยนำรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2566 ไปเปรีบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน ยังพบว่า สปส.ได้ทยอยรินขายหุ้นบิ๊กแคปออกมาทำให้สัดส่วนการถือครองลดลง โดยหุ้นที่สปส.ขายออกมามีจำนวน 5 หุ้นใหญ่ ประกอบด้วย
หุ้น |
จำนวนหุ้นล่าสุด |
จำนวนหุ้นก่อนหน้า |
เปลี่ยนแปลง |
ADVANC |
49,924,500 |
58,371,360 |
-8,446,860 |
PTTEP |
25,135,877 |
31,264,085 |
-6,128,208 |
SCC |
52,063,050 |
54,838,210 |
-2,775,160 |
SCGP |
50,064,586 |
55,526,770 |
-5,462,184 |
TU |
123,727,608 |
137,780,008 |
-14,052,400 |
หน่วย:หุ้น
จากข้อมูลในตารางจะเห็นว่า หุ้นTU เป็นหุ้นที่ถูกเทขายมากสุด จำนวน 14,052,400 หุ้น รองลงมาเป็นหุ้น ADVANC จำนวน 8,446,860 หุ้น
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นTU ล่าสุด ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ประกอบด้วย
รายชื่อ |
จำนวน(หุ้น) |
%การถือครอง |
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด |
329,563,331 |
6.91 |
นาย ธีรพงศ์ จันศิริ |
319,568,824 |
6.7 |
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) |
316,682,800 |
6.64 |
MITSUBISHI UFJ MORGAN STANLEY SECURITIES CO.,LTD. |
238,745,120 |
5 |
นาง จารุณี ชินวงศ์วรกุล |
228,000,000 |
4.78 |
นาย เชง นิรุตตินานนท์ |
200,442,084 |
4.2 |
BNP PARIBAS SINGAPORE BRANCH |
172,367,700 |
3.61 |
นาย ไกรสร จันศิริ |
134,804,288 |
2.83 |
สำนักงานประกันสังคม |
123,727,608 |
2.59 |
นาย ดิสพล จันศิริ |
123,349,308 |
2.58 |
นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวราคาหุ้นTU ในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.70% จากราคา13.50 บาทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14 บาท โดยเคยปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคา 14.20 บาท
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นTU ฝ่ายวิจัยได้แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 15.90 บาท เนื่องจากการที่บริษัทรายงานตลาดลดทุนจากหุ้นซื้อคืนจำนวน 116.68 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.45% ส่งผลให้ คาดการณ์ EPS66-67 ของเราปรับขึ้นเป็น 0.95 และ 1.31 บาท จาก 0.93 และ 1.28 บาทตามลำดับ ส่วนแนวโน้มกำไรปกติ 3Q66 คาดจะฟื้นตัวต่อ QoQ จากระดับสินค้าคงคลังของลูกค้าที่ลดลงมากขึ้นหนุนปริมาณขาย ประกอบกับราคาต้นทุนปลาทูน่าที่เริ่มปรับลดลงหนุน GPM
ทั้งนี้ ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในระยะยาวของ TU คาดกำไรจะทยอยฟื้นตัว HoH ใน 2H66 และกลับมาเติบโต YoY ในปี 2567 และผลของการลดทุนทำให้ราคาเป้าหมายของเราถูกปรับขึ้นเป็น 15.90 บาท รวมถึงราคาหุ้นปัจจุบันมองว่ายังอยู่ในโซนต่ำ ซื้อขายบน PERปี67เพียง 10.6 เท่า และมีสถานะ Under-owned จากนักลงทุนต่างชาติทำให้มี Downside risk จำกัด