Mr.Data
เริ่มเห็นโฉมหน้าครม.เศรษฐา 1 ที่โจทย์ใหญ่ต้องเร่งแก้ปัญหา และเป็นวาระด่วน คงหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องของชาวบ้าน ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องที่จะเร่งนำเสนอในการประชุมครม.นัดแรก ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดือนกันยายนนี้ คือ การปรับลดต้นทุนพลังงาน ดีเซล และค่าไฟลง น่าจะเป็นช่วงเดือนกันยายนนี้
ชัดเจน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.
กระทรวงเศรษฐกิจสำคัญอย่าง กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช. น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช. กระทรวงพลังงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.
กระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช. นางมนพร เจริญศรี รมช.
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.
กระทรวงอุตสาหกรรม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผ่ามุมมองหุ้นที่จะ Outperform หลังได้ ครม.ชุดใหม่ โดยมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย จาก ครม.ชุดใหม่ที่จะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติและจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป โดยคาดว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 8 ก.ย.
ทั้งนี้ เราเลือกหุ้นที่จะมีโอกาส Outperform SET มากสุด (คิดจากผลกระทบนโยบาย ครม.ใหม่ และ price performance ที่ราคาหุ้นยัง laggard กลุ่ม) ได้แก่
CPAXT (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) จะได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่สูงขึ้น ทั้งนโยบายเงินดิจิตอล 1 หมื่นบาท และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
CRC (ซื้อ/เป้า 48.00 บาท) นโยบายเงินเดือน ป.ตรี ขั้นต่ำ 2.5 หมื่นบาท ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในห้างสรรพสินค้าสูงขึ้น
KTC (ซื้อ/เป้า 68.00 บาท) ราคาหุ้นยัง Laggard กว่า AEONTS ที่ได้ประโยชน์จากการเพิ่มวงเงินให้ลูกหนี้ตามเงินเดือนที่เพิ่ม และ NPL ลดลง ตามความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ที่ดีขึ้นเหมือนกัน
AAV (ซื้อ/เป้า 3.70 บาท) จะได้รับประโยชน์จากนโยบายฟรีซ่า และมีการขอให้ภาครัฐพิจารณาลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน
SJWD (ซื้อ/เป้า 17.00 บาท) ธุรกิจขนส่ง (สัดส่วนกำไรขั้นต้น 30%-35%) จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ และยานยนต์ (สัดส่วนกำไรขั้นต้น 5%-10%) จะได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนการใช้ EV
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอ็กซ์ จำกัด มองว่า หากอิงจากนโยบายของ ดิจิทัล วอลเล็ต (Digital Wallet) ของเพื่อไทยจะเป็นหุ้น กลุ่มค้าปลีกอาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP, มองว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
กลุ่มแบงก์ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ด้านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA
ส่วนกลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP
เริ่มเห็นโฉมหน้าครม.เศรษฐา 1 ที่โจทย์ใหญ่ต้องเร่งแก้ปัญหา และเป็นวาระด่วน คงหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องของชาวบ้าน ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องที่จะเร่งนำเสนอในการประชุมครม.นัดแรก ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดือนกันยายนนี้ คือ การปรับลดต้นทุนพลังงาน ดีเซล และค่าไฟลง น่าจะเป็นช่วงเดือนกันยายนนี้
ชัดเจน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.
กระทรวงเศรษฐกิจสำคัญอย่าง กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช. น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช. กระทรวงพลังงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.
กระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช. นางมนพร เจริญศรี รมช.
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.
กระทรวงอุตสาหกรรม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผ่ามุมมองหุ้นที่จะ Outperform หลังได้ ครม.ชุดใหม่ โดยมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย จาก ครม.ชุดใหม่ที่จะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติและจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป โดยคาดว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 8 ก.ย.
ทั้งนี้ เราเลือกหุ้นที่จะมีโอกาส Outperform SET มากสุด (คิดจากผลกระทบนโยบาย ครม.ใหม่ และ price performance ที่ราคาหุ้นยัง laggard กลุ่ม) ได้แก่
CPAXT (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) จะได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่สูงขึ้น ทั้งนโยบายเงินดิจิตอล 1 หมื่นบาท และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
CRC (ซื้อ/เป้า 48.00 บาท) นโยบายเงินเดือน ป.ตรี ขั้นต่ำ 2.5 หมื่นบาท ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในห้างสรรพสินค้าสูงขึ้น
KTC (ซื้อ/เป้า 68.00 บาท) ราคาหุ้นยัง Laggard กว่า AEONTS ที่ได้ประโยชน์จากการเพิ่มวงเงินให้ลูกหนี้ตามเงินเดือนที่เพิ่ม และ NPL ลดลง ตามความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ที่ดีขึ้นเหมือนกัน
AAV (ซื้อ/เป้า 3.70 บาท) จะได้รับประโยชน์จากนโยบายฟรีซ่า และมีการขอให้ภาครัฐพิจารณาลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน
SJWD (ซื้อ/เป้า 17.00 บาท) ธุรกิจขนส่ง (สัดส่วนกำไรขั้นต้น 30%-35%) จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ และยานยนต์ (สัดส่วนกำไรขั้นต้น 5%-10%) จะได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนการใช้ EV
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอ็กซ์ จำกัด มองว่า หากอิงจากนโยบายของ ดิจิทัล วอลเล็ต (Digital Wallet) ของเพื่อไทยจะเป็นหุ้น กลุ่มค้าปลีกอาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP, มองว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
กลุ่มแบงก์ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ด้านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA
ส่วนกลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP