Wealth Sharing

NTSC เข้าเทรด mai 9 ก.พ.นี้ ย้ำผู้นำ “Food & Feed Ingredients” โตยั่งยืน


08 กุมภาพันธ์ 2566
NTSC หุ้นนวัตกรรมอาหาร ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยอย่างมีคุณค่า เตรียมพร้อมลั่นระฆังเทรดวันแรก 9 ก.พ.นี้ พร้อมโชว์ศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา ตอบโจทย์ผู้บริโภคมาแล้วกว่า 4 ทศวรรษ วันนี้พร้อมเดินหน้าต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ จับเทรนด์ Future Food เติบโตไปพร้อมกับเทรนด์อาหารคนและสัตว์ของโลกแบบยั่งยืน ด้าน บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำรวม 5 แห่ง ที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ให้มูลค่าพื้นฐานของ NTSC เฉลี่ยที่ 32.7 บ./หุ้น
ntsc เข้าเทรด.jpg
ดร.พัชร์ เอกปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) หรือ NTSC กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ในหมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้ชื่อย่อ “NTSC” และมั่นใจว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 628.2 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เตรียมนำไปใช้สำหรับลงทุนโครงการในอนาคต ประกอบด้วย โครงการผลิตสารกระตุ้นความน่ากินในสัตว์เลี้ยง (Palatability Enhancer Project) และโครงการลงทุนเครื่องจักรสำหรับการผลิตสินค้า OEM และสินค้าประเภท Food preparation 

ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตในระดับสูง รวมทั้ง นำเงินไปใช้ชำระหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ Food & Feed Ingredients ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกยุคสมัย พร้อมที่จะต่อยอดสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งอนาคต (Future Food) เติบโตไปพร้อมกับเทรนด์อาหารของโลก ด้วยวิสัยทัศน์ ผู้สร้างคุณค่าแก่อุตสาหกรรมอาหาร ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง และอาหารสัตว์

ในด้านผลการดำเนินงานของ NTSC มีการเติบโตของรายได้ที่ต่อเนื่องและมั่นคง มองในระยะยาว ภาพรวมอัตรากำไรจะเติบโตจากการมุ่งเน้นขยายตลาดที่มีแนวโน้มความสามารถในการทำกำไรที่ดี การประหยัดเนื่องจากขนาด (Economies of Scale) และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ลูกค้าของกลุ่มบริษัท ที่เดินหน้าขยายตลาดรับภาพรวมเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวหลังยุคโควิด ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าของ NTSC เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารคนและอาหารสัตว์เลี้ยง รวมทั้ง โอกาสขยายไปยังกลุ่มลูกค้า ODM (รับจ้างผลิตโดย NTSC ร่วมกันคิดค้นสูตรการผลิตให้แก่ลูกค้า) และ OEM  (รับจ้างผลิตภายใต้สูตรการผลิตของลูกค้า) มากขึ้น

นอกจากนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เติบโตตามแนวโน้มจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ออกมาตอบโจทย์โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป อาทิ อาหารที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ หรืออาหารที่เน้นด้านสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้อาหารประเภทต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ หรือตอบสนองความต้องการส่วนตัวบางอย่าง เช่น อาหารเพื่อลดความเครียด มีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วย ดังนั้นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มจึงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า ทำให้ธุรกิจสารปรุงแต่ง วัตถุดิบ และวัตถุเจือปนในอาหารคนเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่จะนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ดังกล่าว ส่งผลบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ NTSC ในอนาคต

การเข้าตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทฯ สู่ความยั่งยืน หลังจากสร้างความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมอาหารมาแล้วกว่า 4 ทศวรรษ วันนี้ NTSC พร้อมที่จะยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากล และสามารถสร้าง New S-Curve ทางธุรกิจได้ อยากให้นักลงทุนทุกท่านติดตามอย่างต่อเนื่อง
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เชื่อมั่นว่า นักลงทุนมองเห็นศักภาพ และโอกาสการเติบโตของ NTSC ซึ่งนับเป็นหุ้นสาย Food Tech ที่มีความเชี่ยวชาญในการนำเข้า ผลิต และจำหน่ายวัตถุดิบ, สารปรุงแต่ง, วัตถุเจือปนอาหาร, วัตถุแต่งกลิ่นรส, สารเสริมอาหารและเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่เป็นจุดแข็งในการสร้างคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ หลากหลาย และมีเอกลักษณ์ ทำให้บริษัทฯ เป็นที่ยอมรับ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในอุตสาหกรรมอาหารคน และต่อยอดมายังอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ที่มีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง
ขณะที่ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคง แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาสินค้าและค่าขนส่งปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม NTSC ได้ปรับกลยุทธ์การขาย และสามารถบริหารจัดการสินค้าได้ดีเยี่ยม ทำให้ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไร ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ประมาณ 23% ประกอบกับแผนการระดมทุน จะสนับสนุนโอกาสการเติบโตของ NTSC ให้พร้อมสำหรับการต่อยอดธุรกิจด้วยฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น จึงมั่นใจว่า NTSC จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจกับนักลงทุนได้

ขณะที่ ในช่วงจองซื้อหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25,000,000 หุ้น มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวนตั้งแต่วันแรก สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการกำหนดราคา IPO ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 26.25 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 22 เท่า ขณะที่ บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำรวม 5 แห่ง ที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ให้มูลค่าพื้นฐานของ NTSC ปี 2566 เฉลี่ยที่ 32.7 บาท/หุ้น